รีวิว ‘บุพเพสันนิวาส 2’ ก้าวสู่รัตนโกสินทร์ กับพรหมลิขิตที่นำพา ภพ-เกสร มาเจอกัน
รีวิว ภาพยตร์ บุพเพสันนิวาส 2 จากละครพีเรียดโรแมนติกคอมมาดี้ดังเป็นพลุแตก สู่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ กับเรื่องราวความรัก พรหมลิขิตที่นำพา ภพ-เกสร มาเจอกัน
อีกไม่กี่วันก็จะเข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส 2 ที่จะมาเตรียมเสิร์ฟความโรแมนติกคอมมาดี้ พร้อมเติมอรรถรสด้วยแอ็กชัน ซึ่งวันนี้ทาง The Thaiger ในฐานะได้ไปเข้าร่วมรับชมภาพยนตร์ในรอบสื่อ จะขอพาทุก ๆ คนย้อนเวลากลับสู่ยุครัตนโกสินทร์ เมื่อ 177 ปีก่อน ซึ่งเป็นยุคที่ “ภพ-เกสร” มาพบเจอกันและเกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย
สำหรับเรื่องย่อของภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส 2 กล่าวถึง เมื่อครั้งสมัยอยุธยาพี่หมื่นและเกศสุรางค์(การะเกด) หลังจากที่ได้ครองรักกันจนตายจากกันไปแล้ว ทั้งคู่ก็ได้โอกาสกลับมาพบเจอกันอีกครั้งในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยพี่หมื่นมาเกิดเป็น ภพ ( รับบทโดย โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) นายช่างหนุ่มหล่อที่ฝันถึงหญิงนางหนึ่ง และเชื่อมั่นมาเสมอว่าหญิงในฝันคนนั้นคือบุพเพสันนิวาสของเขา
จนเมื่อเขาได้พบเจอกับ เกสร (รับบทโดย เบลล่า ราณี แคมเปน) ชาติภพใหม่ของเกศสุรางค์ ที่หน้าละม้ายคล้ายกับหญิงที่เขาฝันถึง ภพจึงตกหลุมรักเกสรในทันที และมีความคิดที่จะตามจีบแบบสุดกำลัง แต่ด้วยความที่เกสรได้ร่ำเรียนหนังสือกับบาทหลวงฝรั่ง ปาเลอกัวซ์ เธอจึงเป็นหญิงที่มีหัวก้าวหน้าและไม่เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาส
แถมเกสรกำลังมีความสนใจกับ เมธัส (รับบทโดย ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต) ชายหนุ่มหน้าฝรั่งที่ชอบใช้คำพูดแปลกผิดยุคสมัย แต่ดันมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับข้อความในสมุดบันทึกโบราณของคุณหญิงการะเกดที่เกสรเพิ่งได้อ่าน เธอจึงได้ขอความช่วยเหลือจาก เมธัส ในการช่วยทำความเข้าใจเกี่ยวกับสมุดบันทึกเล่มนี้
นอกจากเรื่องรัก ๆ แล้วทั้งสาม ภพ เกสร และ เมธัส ก็ยังต้องมีเหตุให้เข้าไปพัวพันกับ เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติบ้านเมือง ในยุครัตนโกสินทร์ซึ่งมีบุคคลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น สุนทรภู่ กวีเอกของโลก (รับบทโดย บ๊อบบี้ นิมิตร ลักษมีพงศ์) , บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ (รับบทโดย โจนาธาน แซมสัน) ผู้ที่นำกล้องถ่ายรูปเข้ามาในประเทศเป็นคนแรก และ นายห้างหันแตร (รับบทโดย แดเนียล บรูซ เฟรเซอร์) เจ้าของห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของไทยและผู้ที่นำเรือกลไฟ ‘เอ็กสเปรส’ มาเสนอขายแก่สยามจนนำมาซึ่งเรื่องราวความขัดแย้งลุกลามบานปลายที่อาจทำให้ประวัติศาสตร์เกิดการเปลี่ยนแปลง
สำหรับความรู้สึกหลังจากเมื่อได้รับชมภาพยตร์ ต้องบอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง ปิ๊ง อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม ที่เคยสร้างผลงานอันเลื่องชื่ออย่าง ภาพยนตร์ รถไฟฟ้า มาหานะเธอ (2552) กับละครดราม่าสุดฮา น้ำตากามเทพ (2558) และในครั้งนี้ บุพเพสันวาส 2 บอกเลยว่าเรื่องความคอมมาดี้กินขาดสุด ๆ เพราะภายในภาพยนตร์ล้วนแล้วมีการสอดแทรกมุกตลกอยู่ในทุก ๆ ฉากตั้งแต่ต้นเรื่องไปยันจบท้ายเรื่อง ซึ่งใครที่ได้รับชมต้องฮาลั่นโรงแน่ ๆ ยิ่งในพาร์ทช่วงกลาง ๆ เรื่องที่ตัวละคร ภพ พยายามตามตื้อจีบ เกสร โดยมีตัวละคร เมธัส รับหน้าที่เป็นพ่อสื่อคอยช่วยเหลือบอกเลยว่าแต่ละวิธีการเด็ด ๆ ทั้งนั้น
นอกจากนี้ภายในเรื่องยังมีการเรียกเสียงฮาน้ำตาเล็ดจากอีกหนึ่งตัวละครสำคัญอย่าง พี่ปี่ (รับบทโดย ปุ๊กกี้ ปวีณ์นุช แพ่งนคร) บ่าวคู่ใจของสาว เกสร ซึ่งแต่ละมุกที่ตัวละครพี่ปี่พ่นออกมาคือฮาแตกมาก ๆ แต่ที่น่าเสียดายคือตัวละครที่ดูเหมือนจะมีบทบทความสำคัญของเรื่องแต่กลับเฟดหาย ก็คงเป็นบทบาทของ เสด็จในกรม (รับบทโดย นนกุล ชานน สันตินธรกุล) ที่ไม่ค่อยเป็นที่น่าจดจำเพียงเท่าไหร่ โผล่มาช่วงกลางเรื่องและกลับมาอีกทีท้ายเรื่อง ทำให้ไม่ได้เห็นมุมอื่น ๆ ที่คาดหวังไว้
ทั้งนี้โดยรวมแล้วการเล่าเรื่องของ บุพเพสันนิวาส 2 คือต้องออกตัวก่อนว่า ทางเรานั้นเป็นเพียงผู้รับชมคนหนึ่งที่ไม่ได้ติดตามดูตอนที่เป็นละคร แต่พอได้มีโอกาสมารับชมภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถเข้าใจและอินกับภาพยนตร์ได้ เพราะเวอร์ชั่นละครและภาพยนตร์ ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกันมาก มีการหยิบยกมาเพียงแค่จุดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น สมุดบันทึกของแม่หญิงการะเกด และตัวละครภพที่ฝันถึงแม่หญิงการะเกด เท่านั้น
แต่สำหรับใครที่ได้รับชมในเวอร์ชั่นละครมาแล้ว ก็สามารถที่อินไปกับตัวละครได้แน่นอน เพราะทาง GDH ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นรอมคอมพีเรียดอิงประวัติศาสตร์สไตล์ ออเจ้า ได้แบบสนุกสนาน ถือเป็นหนังแฟนเซอร์วิสที่แฟน ๆ ละครต้องหลงรัก แต่ก็ยังมีพื้นที่ให้คนที่ไม่เคยดูละครได้ตามทันแบบสนุก ๆ ถือว่าเป็นความบันเทิงที่เหมาะเอาไว้ดูแบบเพลิน ๆ ได้ฟินแบบไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ไปกับความคอมาดี้ภายในเรื่องได้
สุดท้ายนี้ใครที่อยากรับชมภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส 2 จะมีการเข้าฉายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ในโรงภาพยนตร์