รีวิว Resident Evil (2022) ซีรีส์ Netflix สานต่อจักรวาล เกมซอมบี้ในตำนาน
ถามใจคนดูจบ รีวิว Resident Evil (2022) ซีรีส์ใหม่จากทาง Netflix สานต่อจักรวาลเกมซอมบี้ในตำนาน กับคะแนนรีวิวสุดปัง 22% ต่ำในเฟรนไชส์เรซิเดนต์อีวิล
ใครเป้นแฟน ๆ หนังโครตมหากาฟย์ซอมบี้คลั่งอย่างเฟรนไชส์ Resident Evil เชื่อว่าต้องมีตาแตกแน่นอน เมื่อล่าสุดทาง Netflix ได้ปล่อยซีรีส์เรื่องใหม่ในอย่าง Resident Evil (2022) ซึ่งในภาคนี้นั้นเป็นเนื้อเรื่องในจักรวาลเกมอย่าง Biohazard ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหนังจาก Paul W. S. Anderson แต่อย่างใด
- รีวิว พี่นาค 3 อาถรรพ์ เคียดแค้น ดุดัน โปรดักชันยิ่งใหญ่สมการรอคอย
- รีวิว Hurts Like Hell ชำแหละวงการสังเวียนมวยไทย โหดเหมือนโดนนวมอัดหน้า
- รีวิว The Sea Beast (อสูรทะเล) แอนิเมชันจากผู้กำกับมือทอง ในท่วงทำนองที่เราคุ้นเคย
รีวิว Resident Evil (2022) หลังดูจบ งานภาพให้ 9 งานเล่าเรื่องควรให้เท่าไหร่ดี ?
| Resident Evil (2022) เนื้อเรื่องย่อ
Resident Evil (2022) เป็นซีรีส์จากช่อง Netflix ที่มีความยาว 8 ตอน ตอนละ 1 ชั่วโมง สร้างมาจากเกม นี้จึงเป็นหนังผีชีวะเวอร์ชัน Live action ที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับจักรวาล Resident Evil 6 ภาคฉบับ Paul W.S. Anderson ก่อนหน้านั้นเลย
เนื้อเรื่องโดยย่อของ เรซิเดนต์อีวิล จะเล่าเรื่องราวของเชื้อซอมบี้ที่ระบาดใน เมืองนิวเร็กคูนซิตี้ (New Raccoon City) เมื่อบริษัทิวิจัยยาระดับยักษ์ใหญ่อย่าง The Umbrella Corporation ทำเชื้อไวรัสซอมบี้ระบาดออกไป ซึ่งก็เป็นผลให้ผู้อาศัยคนใหม่อย่าง เจดและบิลลี่ 2 พี่น้องตระกูล เวสเกอร์ พลอยโดยเคราะห์กรรมในครั้งไปด้วย
ในเหตุการณ์นี้นั้น ทำให้พวกเธอต้องออกมาตามหาที่มา สาเหตุของวันโลกาวินาศในครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับพ่อของพวกเธอเอง รวมทั้งหาวิธีคิดค้นยาที่สามารถต้านทานอันตรายจากเหล่าผู้ติดเชื้อได้ ในขณะที่บอสใหญ่อย่าง The Umbrella Corporation ก็ตามไล่ล่าเจดอยู่เช่นเดียวกัน
| รีวิว Resident Evil (2022) หลังดูจบ
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าแอดไม่ได้เป็นแฟนเกม Biohazard ดังนั้นรีวิวนี้จะมาในรูปแบบมุมมองของคนธรรมดาที่เข้ามาดูซีรีส์เรื่องนี้ ที่ไม่ได้มาจากการเป็นแฟนเกมมาก่อน
สำหรับการเปิดตัวมาของซีรีส์เรื่องนี้นั้นเป็นอะไรที่ทำให้เราคนดูรู้สึกว่า เรื่องนี้น่าติดตาม น่าดูต่อไปได้อีก เรื่องราวในซีรีส์จะตัดสลับเล่า 2 เหตุการณ์คือปี 2037 ที่ เจด เวสเกอร์ นักวิจัยสาวต้องจำจากลูกน้อยเพื่อเก็บข้อมูลเหล่าซอมบี้ที่เธอเรียกว่าพวก Zero เป็นประชากรหลักของโลก เพื่อหาทางรักษาชีวิตมนุษย์ที่เหลือเพียง 15 ล้านคน
สำหรับงานภาพ แสง สี เสียง ถือว่าทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบตามสไตล์ของซีรีส์ดี ๆ ในเน็ตฟลิก มาพร้อมฉากแอคชั่นที่ทำได้ในระดับดี ไม่ถึงขนาดตื่นเต้น แต่ก็มีจุดที่ทำให้ต้องหยุดทำทุกอย่างเพื่อตั้งใจลุ้นในการต่อสู้ระหว่างตัวนางเอกของเรื่องอย่าง เจด เวสเกอร์
ในส่วนของฝีมือการแสดงก็ได้ Ella Balinska มารับบท Jade Wesker ที่ในเรื่องนั้นเธอจะต้องเล่นเป็น 2 ช่วงอายุคือปี 2022 เจดในวัย 14 ปี และปี 2036 เจดในวัย 28 ปีซึ่งเธอก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยมในทุกบทบาท สายตาที่แสดงถึงความกล้าหาญ เรียกได้ว่าเธอนี่นี่แหละคือเดอะแบกของเรื่องจริง ๆ
ในส่วนบท เนื้อเรื่อง โดยความคิดเห็นส่วนตัวแอดอาจะมองว่าการเล่าเรื่องที่ทางซีรีส์ตักฉากไปมาระหว่า 2 ช่วงเวลาเป็นเหตุทำให้คนดูหลาย ๆ คนไม่อิน ด้วยความที่ 1 ep. นั้นเล่นไปมาหลายรอบมาก เดี๋ยวเด็กเดี๋ยวโต รวมถึงซีรีส์เรื่องนี้ค่อนข้างจะมีหลายแนวในเรื่องเดียว ทำให้หลาย ๆ คนที่ดูปรับอารมณ์ไม่ทัน
| ให้คะแนน Resident Evil (2022) 6/10
สำหรับคะแนนรีวิว ส่วนตัวแล้วแอดให้ไปที่ 6/10 คะแนน ไม่ใช่เพราะงานภาพ หรือการแสดงของตัวละครต่าง ๆ ไม่ดี ในทางตรกันข้าม นักแสดงกลับแสดงได้ดีมากจนบางทีแอดก็อินถึงขนาดที่ว่า นางเอกจะงี่เง้าอะไรเบอร์นั้น จะต่อต้านอะไรนักหนา
ซึ่งนั่นมก็มาจาก “บทหนัง” ที่ทำให้แอดจัดซีรีส์เรื่องนี้ให้อยู่ที่ 6 คะแนน เนื่องจากบทที่มีควาตักสับไปสับมา เดี๋ยวก็โต เดี๋ยวก้เด็ก กลายเป้นว่าเราเหมือนไม่ได้เห้นพัฒนาการของตัวละครในเรื่องเลย อีกทั้งยังไม่รวมกับกรใส่สัตว์ประหลาดต่าง ๆ ที่งงว่าจะใส่มาทำไม ถ้าเป็นหมาซอมบี้ยังพอเข้าใจได้ แต่หนอนยักษ์ซอมบี้นี่สิ ?
สรุปส่งท้าย รีวิว Resident Evil (2022) ซีรีส์จากทาง Netflix เรื่องนี้เห็นในสื่อต่างชาติวิจารณ์แบ่งเป็น 2 พวกหลัก ๆ เลยคือกลุ่มคนที่รักเรื่องนี้มากก และกลุ่มคนที่หลังใส่ ซึ่งจากที่แอดได้ดูมา ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ดีเว่อร์วังเช่นกัน ดังนั้นแล้วใครที่อยากรู้ว่าซีรีส์เรื่องนี้ควรอยู่ในหมวดไหน ก็ขอให้ลองเปิดใจพิสูจน์ด้วยตัวเองได้เลย