ข่าวข่าวอาชญากรรม

ด่วน! ศาลพิพากษา จำคุกตลอดชีวิต ผู้กำกับโจ้ พร้อมพวก ปมฆ่ามัดถุง

ด่วน! ศาลพิพากษา จำคุกตลอดชีวิต ผู้กำกับโจ้ พร้อมพวกกรณีใช้ถุงคลุมศีรษะเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาเสียชีวิต ด้านครอบครัวผู้ตายขอสู้ศาลเดียว

ผู้กำกับโจ้จำคุกตลอดชีวิต – ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ตลิ่งชัน ได้อ่านคำพิพากษา คดีโจ้เฟอร์รารี่ หรือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับที่ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมศีรษะจนทำให้ มาวิน ผู้ต้องหายาเสพติดเสียชีวิต และกลายเป็นคดีโด่งดังเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2564

โดยศาลเตรียมอ่านคำพิพากษาของ ผกก.โจ้ และพวกรวม 7 คน ในความผิดฐานดังต่อไปนี้

  • เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
  • เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
  • ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
  • ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น
  • หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
  • อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289 (5), 309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561มาตรา 4,172

ศาลได้ตัดสินให้ ผู้กำกับโจ้ และ พวกลูกน้อง กระทำผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษข้อหาฆ่าโดยโหดร้ายทารุณฯบทหนักสุดให้ประหารชีวิตลดโทษ 1 ใน3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่6 ผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมานอาญามาตรา 157 จำคุก 5 ปี 4 เดือน

ขณะที่ เรืออากาศตรี จักรกฤษ กลั่นดี และนางจันจิรา ธนพัฒน์ บิดา มารดา ของนายมาวิน ผู้ตาย รวมทั้งทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา โดยเรืออากาศตรี จักรกฤษ นายมาวิน กล่าวว่าไม่ว่าผลคดีจะออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับ และจะไม่ขออุทธรณ์ หรือฎีกา ขอสู้แค่ศาลเดียวพอ ทั้งนี้ขอให้ฝ่ายจำเลยจ่ายเงินเยียวยา 1 ล้าน 5 แสนบาทให้ตามที่ตกลงกัน

ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือผกก.โจ้ จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในข้อหาที่ 1, 2 และ 4 ยกเว้นข้อหาที่ 3 ระบุเหตุผลว่า ยอมรับว่ามีการทำร้ายร่างกาย ต้องการขยายผลทางคดียาเสพติดที่เป็นภัยร้ายของสังคม ไม่ได้ต้องการให้นายจิรพงษ์ถึงแก่ความตาย ที่ทำไปเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ

ขณะที่ จำเลยที่ 2 ให้การยอมรับสารภาพทุกข้อหา ยกเว้นข้อหาที่ 3 เช่นเดียวกัน ให้เหตุผลว่า ไม่ได้เจตนาจะให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย เพียงอยู่ร่วมในเหตุการณ์ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา จำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธข้อหาที่ 3 และ 4 และให้เหตุผลว่า ได้เข้ามาที่เกิดเหตุภายหลัง และไม่ได้ร่วมทำร้ายผู้ตาย

จำเลยที่ 4 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยกเว้นข้อหาที่ 4 ที่ให้การรับสารภาพ โดยเหตุผลในการปฏิเสธระบุว่า ทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา ร่วมทำร้ายจริง แต่ไม่เจตนาให้ถึงแก่ชีวิต ส่วนจำเลยที่ 5-7 ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จำเลยที่ 5 และ 7 ให้เหตุผลว่าอยู่ในเหตุการณ์ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ไม่ได้ร่วมทำร้าย ส่วนจำเลยที่ 6 ระบุว่า เข้าไปในที่เกิดเหตุ แล้วเดินออกมา โดยเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นไปแล้ว

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button