‘วินทร์ เลียววาริณ’ วิจารณ์หนักหลัง ยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว
วินทร์ เลียววาริณ วิจารณ์หนักหลังจากที่ อบจ. ประกาศ ยกเลิกอัญเชิญพระเกี้ยว ชี้พระเกี้ยวไม่ใช่สัญลักษณ์ของความไม่เสมอภาค
วินทร์ เลียววาริณ อดีตนิสิตจุฬาฯ นักเขียนชื่อดัง และ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2556 ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊กแสดงความเห็นถึงกรณีที่ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประกาศยกเลิกกิจกรรมอัญเชิญพระเกี้ยว ซึ่งเป็นกิจกรรมเก่าแก่และปฏิบัติกันมาอย่างยาวในงานฟุตบอลประเพณี จุฬาฯ และ ธรรมศาสตร์ จนกลายเป็นข้อถกเถียงกันเป็นอย่างมากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
นาย วินทร์ กล่าวว่า “จอร์จ ออร์เวลล์ (ผู้เขียน 1984, Animal Farm) เขียนว่า “The most effective way to destroy people is to deny and obliterate their own understanding of their history.”
แปลว่า ทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำลายประชาชน คือปฏิเสธและกวาดทิ้งความเข้าใจของพวกเขาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง
ช่วงหลังนี้ผมได้ยินข่าวเกี่ยวกับจุฬาฯหลายเรื่องซึ่งชวนอึดอัด ทั้งหมดฟังดูดี มีหลักการ ใช้คำพูดสวยหรู แต่อ่านระหว่างบรรทัดแล้ว ก็อดไม่ได้ต้องคิดว่ามันเป็นการ ‘ตีวัวกระทบคราด’ และ ‘โยนหินถามทาง’ และ ‘กวาดทิ้งความเข้าใจ’ ตามคำของ จอร์จ ออร์เวลล์ ข้างต้นหรือไม่
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด เข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ในชั้น ม.ศ.4 ที่โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เช่นเดียวกับโรงเรียนทั่วไป เครื่องแบบนักเรียนปักอักษรย่อ บ.ด. บนหน้าอก แต่ต่างจากโรงเรียนส่วนใหญ่ เรากลัดตราสีทองชิ้นหนึ่งเหนืออักษรย่อ เข็มกลัดนั้นเรียกว่า พระเกี้ยว
หลังจากเรียนจบ ม.ศ.5 ผมมีโอกาสเข้าเรียนในสถาบันที่ใช้ตราพระเกี้ยวอีกครั้ง คือจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย (ในสมัยผมเข้าเรียน ไม่มีการันต์เหนือ ณ) คราวนี้พบว่าเนกไทที่เด็กปี 1 ใส่ปักตราพระเกี้ยว ชุดนิสิตหญิงก็มีตรานี้เช่นกัน ทั้งที่กลัดบนเสื้อและหัวเข็มขัด
พระเกี้ยวคืออะไรกันแน่? พระเกี้ยวหรือจุลมงกุฎเป็นสัญลักษณ์และพิจิตรเลขาประจำรัชกาลในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มันมีความเชื่อมต่อกับรัชกาลที่ 4 ด้วย เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยทั่วโลกซึ่งล้วนใช้ตราที่มีความหมาย จุฬาฯ ก็เช่นกัน ในเมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงริเริ่มโครงการสร้างมหาวิทยาลัยแห่งนี้ พระนามของพระองค์ก็เป็นที่มาของนามมหาวิทยาลัย และใช้สัญลักษณ์พระเกี้ยวประจำมหาวิทยาลัย
ย้ำ – สัญลักษณ์พระเกี้ยว ไม่ใช่ว่าวจุฬาฯ
สถาบันการศึกษาต่างๆ ที่มีรากฐานเดียวกันนี้ล้วนใช้ตราพระเกี้ยว ไม่ว่าจะเป็นจุฬาฯ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา บดินทรเดชาฯ หอวัง และอีกหลายๆ โรงเรียน พระเกี้ยวก็คือที่ระลึกชิ้นเล็กๆ ที่เชื่อมนักเรียนและนิสิตกับพระองค์ มันเป็นรากของเรา
เมื่อเข้าใจประวัติศาสตร์ที่มา ก็จะรู้ว่าพระเกี้ยวไม่ใช่และไม่เคยเป็นสัญลักษณ์ของความไม่เสมอภาค มันเป็นสัญลักษณ์ของผู้ริเริ่มสร้างมหาวิทยาลัย มันเป็นสัญลักษณ์ของความรู้ และมันเป็นสัญลักษณ์ของความกตัญญู ชาวจุฬาฯ ไม่ว่ารุ่นไหน อย่าลืมเป็นอันขาดว่าปราศจากเจ้าของตราพระเกี้ยวนี้ ก็ไม่มีเรา ไม่มีเราก็ไม่มีอนาคตของเรา
ใครก็ตามที่ชอบอ้างถึงอนาคตที่ดีกว่าโดยละทิ้งอดีต พึงสำนึกเสมอว่าอนาคตที่ไร้รากแห่งอดีตก็เหมือนคนที่ไร้เงา “ปฏิเสธและกวาดทิ้งความเข้าใจของพวกเขาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง” คุณค่าของมนุษย์เราอยู่ที่ความกตัญญูกตเวทิตา มีคุณให้ทดแทน และหากไม่ทดแทน อย่างน้อยก็ไม่เนรคุณ”