ชมรมแพทย์ชนบท แนะ! เริ่มจ่าย แอสตร้าเซเนก้า ณ กทม./ปริมณฑล ก่อน
ชมรมแพทย์ชนบท แนะนำให้เริ่มจ่ายวัคซีน แอสตร้าเซเนก้า เน้นไปที่ กทม./ปริมณฑล ก่อน เนื่องด้วยพื้นที่ดังกล่าวมีความสำคัญ และเป็นจุดหลักของการแพร่ระบาด
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2564 – เพจเฟซบุ๊ค ชมรมแพทย์ชนบท ได้ทำการเสนอข้อแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายวัคซีนโควิด-19 โดยเสนอให้จ่ายวัคซีน แอสตร้าเซเนก้า เน้นไปยังพื้นที่ กทม./ปริมณฑล เป็นหลักก่อนในเวลานี้ และรัฐบาลต้องหยุดใช้งานวัคซีนเป็นเครื่องมือทางการเมือง
โดยเนื้อหาทั้งหมดนั้นมีด้วยกันดังนี้
ลับลวงพราง วัคซีนโควิด ตอน 3 : 31-05-64 ข้อเสนอใหม่ “หยุดระบาดโควิดให้ตรงจุด ถมวัคซีนแอสตร้าหมดหน้าตักที่กรุงเทพและปริมณฑล”
การระบาดระลอก 3 นั้น มีการระบาดหนักที่สุดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิดระลอก 3 ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 30 พฤษภาคม 2564 มีผู้ป่วยโควิดทั้งสิ้น 100,412 คน อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล 5 จังหวัดถึง 60,781 คน หรือคิดเป็น 60% ของทั้งประเทศ
การยุติการระบาดในเมืองหลวงนั้นปัจจุบันทำได้แค่ยืนพิงเชือกอย่าให้ล้ม รอวัคซีนมาช่วย แต่เมื่อวัคซีนมาน้อย แอสตร้าเซเนก้าไม่มาตามนัด ซิโนแวคก็ต้องกระจายทั่วประเทศ ไฟเซอร์โมเดิร์นนายังไม่แม้แต่ส่งเงินไปจองวัคซีน ซิโนฟาร์มจะมาlotใหญ่ได้แค่ไหนยังไม่รู้ การยุติการระบาดในกรุงเทพจึงไม่เห็นอนาคต
ที่สำคัญ กรุงเทพและปริมณฑล มีระบบการสาธารณสุขที่อ่อนแอที่สุดในประเทศ คือ มีแต่ระบบโรงพยาบาลที่ไว้รับดูแลยามป่วย ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอ และไม่มีระบบบริการปฐมภูมิที่ดี ที่จะทำหน้าที่ควบคุมโร
ค แค่การระบาดในคลองเตย ใครจะแจกแจงข้อมูล สอบสวนโรค คัดแยกกลุ่มเสี่ยง ทำ swab ตรวจโควิด เอาคนป่วยไปรักษา เอาคนเสี่ยงไปกักตัว ซึ่งในความเป็นจริงนั้นแทบจะทำไม่ไหว สิ่งที่ทำได้คือการเปิดโรงพยาบาลสนามเพื่อรอรับคนป่วยมารักษาเท่านั้น
เมื่อกรุงเทพระบาด ธุรกิจทยอยปิดตัว พนักงานก็ลำบาก ต่างเดินทางกลับต่างจังหวัดอย่างน้อยก็ยังมีข้าวกิน จึงเป็นการส่งออกเชื้อโควิดไปทั่วประเทศ ดังนั้นหากไม่สามารถหยุดการระบาดที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้ ต่างจังหวัดก็ยังเสี่ยงต่อไป
ทางเลือกหนึ่งเพื่อการยุติการระบาดของโควิดระลอก3 ด้วยข้อจำกัดที่วัคซีนมีน้อยมาก ก็คือ ต้องเลือกเป้าที่จะยิง ไม่ใช่ยิงกระจัดกระจายเป็นเบี้ยหัวแตก และรัฐบาลต้องกล้าหาญเอาการเมืองออกจากวัคซีน
ชมรมแพทย์ชนบท จึงมีข้อเสนอใหม่สำหรับรัฐบาล ขอให้ ศบค.นำวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าทั้งหมด ราว 1.8 ล้านโดส ที่ผลิตได้จากสยามไบโอไซแอนในเดือนมิถุนายนนี้ เทหมดหน้าตักถมลงที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 3 จังหวัด อาทิ จัดให้กรุงเทพมหานคร 9 แสนโดส เพื่อกระจายลงในเขตที่มีการระบาด และจัดไปที่ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ จังหวัดละ 3 แสนโดส ฉีดให้เสร็จใน 1 สัปดาห์ จะช่วยลดการระบาดลงได้มาก
บทเรียนจากแม่สอดพบว่า ที่นั่นได้ฉีดวัคซีนเพียง 30% ก็มี herd immunity พอที่จะไม่ระบาดใหญ่แล้ว ส่วนจะให้ถึง 70% นั้นคงยากในภาวะที่ไทยเราที่มีวัคซีนในมือน้อยเช่นนี้
ทำไมต้องเป็นแอสตร้า ก็เพราะวัคซีนแอสตร้าเกิดภูมิคุ้มกันหลังการฉีดเข็มแรกถึงมากกว่า 80 % ในขณะที่วัคซีนซิโนแวคต้องรอหลังเข็ม 2 จึงจะเกิดภูมิในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่เมื่อคนจองหมอพร้อมไว้เขาก็รอแอสตร้าอยู่ รัฐบาลจะพร้อมไหมที่จะอธิบายทำความเข้าใจสื่อสารกับคนไทยทั้งประเทศ ให้เห็นถึงความจำเป็นนี้ หากนี่คือหนทางที่ใช่ รัฐบาลก็ต้องกล้าตัดสินใจ กล้าแสดงภาวะผู้นำ และสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจนในภาวะวิกฤต
แต่หากยังบริหารแบบตามใบจองหมอพร้อมและระบบ MOPH IC วัคซีนก็จะถูกกระจายเป็นเบี้ยหัวแตก ถูกฉีดในกลุ่มคนที่ลงทะเบียนไว้ซึ่งกลุ่มใหญ่อยู่ต่างจังหวัดที่มีการระบาดน้อย ทำให้วัคซีนที่มีค่ายิ่ง ไม่ถูกใช้เพื่อดับไฟโควิดในจุดสำคัญ
ส่วนวัคซีนซิโนแวคที่มีมาเสริมก็กระจายไปทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด ใครที่ลงหมอพร้อมไว้ หากยินดีรับ sinovac ก็รับไป หากไม่ยินดีก็ต้องรอ เพราะวัคซีนแอสตร้าเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในวันนี้ที่เรามีในการยุติการระบาดในพื้นที่สีแดง
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเอาการเมืองออกจากวัคซีน หยุดการที่ สส.แต่ละจังหวัดเข้ามาตอดขอวัคซีน หรือ จัดสรรลงในจังหวัดที่หวังเก็บคะแนนเพื่อการเลือกตั้งที่ใกล้จะถึง มิถุนายนคือเดือนชี้อนาคต หากควบคุมการระบาดไม่อยู่ กรุงเทพอาจต้องล็อคดาวน์เป็นเมืองร้าง การระบาดอาจลามไปทั่วประเทศ เช่นเดียวกับมาเลเซีย
“กระสุนมีจำกัด หยุดระบาดโควิดให้ตรงจุด ถมวัคซีนแอสตร้าหมดหน้าตักลงที่กรุงเทพและปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี)” นี่คือข้อเสนอของชมรมแพทย์ชนบท ที่หวังว่ารัฐบาลและสังคมไทยจะร่วมผลักดันให้เป็นจริง
แหล่งที่มาของข่าว : Facebook Page – ชมรมแพทย์ชนบท
สามารถติดตามข่าวโควิด-19 เพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวโควิด-19
- ม.มหิดล เตือน! ปชช. อย่าการ์ดตกระวัง โควิด-19 ช่วงฤดูฝน
- ข่าวปลอม! ครูบ้านสันกอง จ.เชียงราย เสียชีวิต เพราะ วัคซีนซิโนแวค