คลัสเตอร์สถานบันเทิง กระจายไป 15 จว. ติดเชื้อ 291 ราย
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ทำการเปิดเผยผลการแพร่ระบาดของ คลัสเตอร์สถานบันเทิง โดยได้มีการกระจายไปแล้วถึง 15 จังหวัด รวมเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อในเครือข่ายนี้ 291 รายด้วยกัน
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ได้ทำการแถลงข่าว (7 เมษายน 2564) ถึงกรณีการแพร่ระบาดจากสถานบันเทิง หรือ คลัสเตอร์สถานบันเทิง ในช่วงวันที่ 22 มีนาคม – 6 เมษายน 2564
โดยพบว่ามีการกระจายตัวไปแล้วถึง 15 จังหวัด และมีจำนวนผู้ติดเชื้อถึง 291 รายด้วยกัน ซึ่งแบ่งสัดส่วนตามแต่ละจังหวัดได้ดังนี้
- กรุงเทพมหานคร 200 ราย
- ชลบุรี 23 ราย
- สมุทรปราการ 18 ราย
- สุพรรณบุรี 14 ราย
- นนทบุรี 13 ราย
- นครปฐม 7 ราย
- ปทุมธานี 5 ราย
- เชียงใหม่ ชุมพร และสมุทรสาครจังหวัดละ 2 ราย
- จังหวัดเลย กาญจนบุรี ตาก ลพบุรี และสระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย
พญ.อภิสมัย ได้เปิดเผยว่าทาง ศบค. นั้นยังไม่ได้มีการเห็นชอบให้มีการปรับพื้นที่โซนสีใหม่ตามข้อเสนอของ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข(EOC) กระทรวงสาธารณสุข โดยยังคงให้ทำการยึดตามมาตรา 9 ของ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉบับที่ 15 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
หมายความว่า จะยังไม่มีการบังคับใช้ 5 จังหวัดพื้นที่สีแดง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นครปฐม นนทบุรี และปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม ได้มีการมอบหมายให้ทาง กระทรวงสาธารณสุข และ กระทรวมหาดไทย หาข้อสรุปในการควบคุมการแพร่ระบาดที่มีประสิทธิภาพต่อไป โดยเฉพาะอย่างในกรณีของสถานบันเทิง
พญ.อภิสมัย ได้กล่าวว่า “ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กมีข้อสรุปว่า มาตรการที่มีอยู่เดิม ก็มอบอำนาจให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมหารือกับกระทรวงมหาดไทย หาข้อสรุปที่มีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีที่สุด ดังนั้นยังไม่มีการปรับพื้นที่สีตามที่คณะกรรมการ EOC เสนอมา แต่ขอให้ประชาชนติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะในช่วง 1-2 วันนี้ สาธารณสุขและมหาดไทยจะหารือกันอย่างละเอียดในเรื่องนี้”
ทั้งนี้แล้ว พญ.อภิสมัย ได้กล่าวต่อถึงในความกังวลต่อการแร่พระบาดที่จะมากขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไว้คร่าว ๆ ว่า ในช่วงเทศกาลนี้อาจจะพบเจอกับการระบาดเป็นหยุมกระจายออกไปเพิ่มขึ้น เนื่องด้วยการเดินทางออกไปต่างจังหวัดของผู้คน จึงได้มีการข้อให้ระงับการเดินทางที่ไม่จำเป็นออกไป รวมถึงปฏิบัติตามแนวทางมาตรการด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดอีกด้วย
สามารถติดตามข่าวโควิด-19 เพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวโควิด-19