ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ติดจากคนในครอบครัวสูงถึงร้อยละ 45
กระทรวงสาธารณสุขเผยตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เป็นการติดจากสัมผัสในครอบครัวสูง
ข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข รายงาน สาเหตุหลักของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเดือนเมษายน คือผู้สัมผัสในครอบครัวเดียวกัน หากเป็นคู่สามี – ภรรยาสูงร้อยละ 43 ย้ำมาตรการส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิด เป็นหัวใจหลักลดการสัมผัสแพร่เชื้อในครอบครัว
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค ระบุว่าเมื่อรัฐบาลมีนโยบายยกเลิกเที่ยวบินจากต่างประเทศ ทำให้รูปแบบการติดเชื้อเปลี่ยนไปเป็นการติดภายในประเทศ จากพฤติกรรมยู่ใกล้ชิดกัน การไปในสถานที่แออัด เช่น ตลาด สถานบันเทิง หรือป่วยแล้วไม่หยุดงาน จึงมีการแพร่เชื้อเป็นวงกว้าง รวมทั้งผู้ที่ทำงานหรือออกไปนอกบ้านนำเชื้อเข้าบ้าน ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อภายในครอบครัว
คู่สามี-ภรรยา โอกาสติดสูงถึงร้อยละ 43 และยังทำให้ลูก หรือพ่อ/แม่ ที่สัมผัสใกล้ชิดในครอบครัวมีโอกาสติดเชื้อด้วยร้อยละ 14.8-16.4 ผู้ป่วยเด็กอายุระหว่าง 0-14 ปี เกิดจากการสัมผัส พ่อ-แม่ ร้อยละ 45 รองลงมาเป็นการสัมผัสจากบุคคลที่อาศัยร่วมบ้านร้อยละ 24 และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปป่วยจากการสัมผัสคนร่วมบ้านร้อยละ 34
นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า ขณะนี้ รัฐบาลกำลังพิจารณาผ่อนปรนมาตรการ จะส่งผลให้มีการเดินทาง พบปะกันมากขึ้น ภาคธุรกิจหลายแห่งจะเริ่มเปิดกิจการอีกครั้ง อาจมีโอกาสทำให้จำนวนผู้ป่วยกลับมาเพิ่มมากขึ้นได้อีก
ขอให้ผู้ประกอบการจัดเตรียมมาตรการสำหรับองค์กรเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ เช่น การทำงานจากบ้าน การเหลื่อมเวลาการทำงาน หรือการเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดโดยไม่ได้ป้องกัน รวมถึงให้ประชาชนตระหนักถึงมาตรการส่วนบุคคล การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างระหว่างกัน นับเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป