นายกฯ สั่งตำรวจเน้นใช้กฏหมายจับตา พวกผีพนัน-ตั้งวงก๊งเหล้า เป็นหลัก
หลังมีประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ เคอร์ฟิว ออกไปอีกเป็นเวลา 1 เดือน ทางด้านนายกรัฐมนตรี สั่งตํารวจเน้นบังคับใช้กฎหมายกับ พวกผีพนัน-ตั้งวงก๊งเหล้า เป็นหลัก หลังจากก่อนหน้าพบผู้ฝ่าฝืนจำนวนมาก
พลตำรวจโท ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. และผลประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ กตช. ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นายกรัฐมนตรี ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายอย่างเคร่งครัด
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. ทั้ง 4 มาตราการอย่างเคร่งครัด ได้แก่ ควบคุมการเดินทาง ทางบก ทางอากาศและทางน้ำ , คงมาตรการเคอร์ฟิว 4 ทุ่มถึงตี 4 อีก 30 วัน , มาตรการลดและชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด และสุดท้ายการงดกิจกรรมรวมตัวของคนหมู่มาก เช่น การชุมนุม หรือ การสังสรรค์ที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อทั้ง 4 ประเด็นเกี่ยวข้องกับงานของตำรวจ
พลตำรวจโทปิยะ ได้รายการผลจากการเคอร์ฟิวราว ๆ 1 เดือนก่อน ผลปรากฏว่า การตรวจค้นรถและบุคคลพบว่า มีบุคคลที่ฝ่าฝืนช่วงแรกประมาณ 1,000 คนต่อวัน แต่ระยะหลังลดลงเช่นเมือคืนที่ผ่านมา เหลือเพียง 448 คน และมั่วสุมในเคหะสถาน 59 คน และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ยังพบว่า มีประชาชนที่ไม่ยอมปรับพฤติกรรมตัวเอง และยังลักลอบเล่นการพนัน ตั้งวงดื่มสุรา รวมถึงกลุ่มที่ ฝ่าฝืนทำงานเกินเวลา ซึ่งนายกฯ ประยุทธ์ ได้เน้นย้ำให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและกติกาในลักษณะนี้อย่างเข้มงวด
โดยให้ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง หู ตา ไวมากขึ้น และควรเข้าพื้นที่จัดระเบียบประชาชน ก่อนถึงกำหนดเวลาที่จะแจกของ เนื่องจากประชาชนไปรอของแจก ก่อนถึงเวลาจำนวนมาก สถานีตำรวจหรอฟ้าใสช่วงเวลาเคอร์ฟิวแสวงหาประโยชน์จากประชาชนสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะสอดส่องเพื่อดำเนินการอย่างเคร่งครัด