Apple อาจนำ TouchID กลับมาใช้ใน Apple Watch
นับตั้งแต่มีการเปิดตัว iPhone X เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ระบบรักษาความปลอดภัยอย่าง TouchID ก็ถูกเข้ามาแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ FaceID แต่ในอนาคต TouchID อาจจะกลับมามีบทบาดอีกครั้ง. ด้วยจากเสียงเรียกร้องของผู้ใช้จำนวนมากและล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลจากนักวิเคราะห์ที่เข้าเยี่ยมชมภายใน Apple เมื่อไม่นานมานี้. โดยพบว่า iPhone โมเดลใหม่ในอาจมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า acoustic in-display fingerprint scanner.
เมื่อประมาณต้นเดือนพฤษจิกายนที่ผ่านมา สำนักงานสิทธิบัตรทรัพย์สินทางสหรัฐฯได้มีการเปิดเผยข้อมูลการจดสิทธิบัตรโดยมีการระบุเป็น “Antenna Assemblies For Watch Bands” หรือการฝังเสาอากาศเข้าไปในสายนาฬิกา. โดยสิทธบัตรดังกล่าวนี้ถูกยื่นจดมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2018. หากพูดถึงเสาอากาศที่จะในเข้าไปในสายนาฬิกาได้นั้นแน่นอนว่าต้องมีคุณสมบัติในการยืดหยุ่นและโค้งงอได้เพื่อสอดรับกับสายนาฬิกา. ทั้งนี้สื่อนอกหลายสำนักมองว่าเป็น Apple น่าจะกำลังซุ่มพัฒนาเทคโนโลนีระบบ Touch ID บน Apple Watch รุ่นในอนาคตก็เป็นได้.
ภาพ: Phonearena
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาเคยมีข่าวลือว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีที่คาดว่าจะมาแทนที่ FaceID และ TouchID โดยเป็นการระบุตัวตนผู้ใช้ผ่านอุ้งมือแทน. แต่ในใบสิทธิบัตที่เพิ่งหลุดออกมาสัปดาห์ที่แล้วเป็นการเจาะจงเรื่องของเสาอากาศและการสแกนลายนิ้วมือมากกว่า. โดยเสาอากาศนี้จะทำหน้าที่เชื่อมต่อกับตัวเรือนและหน้าโดย และหน้าจอจะทำหน้าที่เป็นตัวรับทั้งการสัมผัส, แรงกด, อุณหภูมิของเครื่องและ/หรืออาจถูกใช้เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ.
หนึ่งรุ่น iPhone ที่มีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงที่จะมีการใส่ TouchID คือ iPhone SE 2 ที่มีข่าวลือว่าจะใช้รูปโฉมดีไซน์จาก iPhone 8 ซึ่งหมายความว่าทั้งปุ่มและ TouchID อาจจะกลับมาอีกครั้ง.
อย่างไรก็ตาม การที่มีความเป็นไปได้สูงเกี่ยวกับการกลับมาของ TouchID นั้นไม่ได้ความว่า Apple จะยุติบทบาดของ FaceID แต่อย่างใด. ระบบการจดจำใบหน้านั้จะยังคงมีอยู่ต่อในใน iPhone ใหม่, เหตุผลหลักที่ Apple เลิกใช้ TouchID เพราะมีความจำเป็นต้องตัดปุ่มโฮมออกไปเพื่อเพิ่มขนาดให้กับห้าจอโดยที่ไม่มีส่วนไหนกินพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์. หาก Apple สามารเพิ่มระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอเข้าไใด้จริงๆใน Apple Watch นั่นก็ถือเป็นข่าวดีเพราะมันหมายถึงความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็น iPhone รุ่นในอนาคตมีระบบความปลอดภัยถึงสองชั้นในเครื่องเดียว.
ที่มา: phonearena