นุ้ย เชิญยิ้ม เปิดใจหลังน้องภูสารภาพไม่ใช่ชายแท้
นุ้ย เชิญยิ้ม เปิดใจหลังน้องภูสารภาพไม่ใช่ชายแท้
ถือเป็นดาราตลกที่สร้างความบันเทิงมานานหลายปีแล้ว และมีผลงานออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ สำหรับนุ้ย เชิญยิ้ม ล่าสุดเจ้าตัวได้รับเชิญมารายการ เมย์ เอ๋ โอ๋ Mama’s Talk ช่วงถอดเขี้ยวถอดเล็บ ทางช่อง PPTV HD ที่มี 3 เมย์ ปทิดา, เอ๋ พรทิพย์ และโอ๋ ภัคจีรา เป็นพิธีกร นอกจากจะพูดเรื่องความรัก 19 ปีกับภรรยา ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอดแล้ว เจ้าตัวยังเปิดใจถึง น้องภู ลูกชาย วัย 16 ตอนนี้เริ่มโตเป็นหนุ่มแล้ว และมีทางเลือกชีวิตตัวเอง
ตอนนี้ชอบทำอาหารเหมือนเดิมมั้ย
ถ้ามีเวลาเขาก็จะทำนะ ทำขนมบ้าง ช่วงนี้เขาเรียนตั้งแต่วันจันทร์-เสาร์ จันทร์-ศุกร์ เรียนที่ ร.ร. วันเสาร์ไป รด. วันอาทิตยก็จะบอกเลยว่าอย่าปลุกผมนะพ่อ ขอผมนอนเต็มๆ ตื่นสายๆ สักวันนึง เขาเป็นคนไม่ชอบไปไหน ไม่ชอบแต่งตัว ไม่เอาอะไรทั้งสิ้น ชอบเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่เอาเลย พอโตเขาจะเปลี่ยนไปเอง เขาชอบพวกคอมพิวเตอร์ วิศวกรอะไรพวกนี้ เรื่องคอมพ์เขาจะเก่งมาก และเขาพูดภาษาอังกฤษกับภาษาจีนได้
มีหลักการเลี้ยงลูกยังไง เพราะทำงานกันทั้งคู่
จริงๆ แล้วผมว่ายังไงก็แล้วแต่ เริ่มจากเด็กก่อนเลย นิสัยของเด็กก่อน ถ้าไม่ดียังไง พ่อแม่ค่อยเข้าไปมีส่วนร่วมแล้วค่อยไปปรับ แต่ถ้าจู้จี้จุกจิกตั้งแต่แรกเดี๋ยวเพี้ยนเดี๋ยวผิดเลย เป็นแรงกดดันทำให้น้องไม่เป็นตัวของตัวเอง จะทำอะไรก็ไม่กล้า เราก็ปล่อยก่อนเลย ให้เขาได้ลองทำ เป็นช่วงที่เด็กศึกษาอยู่ เราจะไม่เข้าไปยุ่ง ดูอยู่ใกล้ๆ ถ้าทำอะไรไม่ดี เราถึงค่อยเข้าไปบอกว่าอันนี้อย่าเพิ่งนะลูก แล้วเด็กจะมีความกล้าที่จะแสดงความสามารถออกมาให้เราได้เห็น อย่าเพิ่งไปปิดกั้นเขา
ประเด็นที่น้องภู ให้คำตอบเรื่องทางเลือกชีวิตตัวเอง
อยากจะบอกว่าลูกเขาก็ดีนะ เขาสนิทกับพี่ตั๊กมากกว่าพี่ แต่ทำไมเขาเดินมาบอกพี่ก่อนคนแรก ก็บอกว่าพ่อ ผมเป็นเกย์ อะไรแบบนี้ ตอนแรกเราก็รู้สึกไม่ดี ลูกไม่แมน ทำไงดีวะเนี่ย ตอนไปพิษณุโลก พี่ไปนั่งร้องไห้กันทั้งครอบครัว คิดว่าพี่ทำบาปทำกรรมอะไรมาถึงเป็นอย่างนี้ เขาก็เดินเข้ามาแล้วมานั่งตักพี่และกอดพี่แล้วบอกว่าพ่อ อย่าคิดมากนะ จนทำให้เราเฮ้ย มันก็ไม่ได้ผิดอะไรนี่หว่า เขาเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนอะไร เขาก็อยู่ในส่วนของเขา เขาไม่ได้ทำอะไรเสียหาย
เราต้องเปิดกว้าง เปิดใจรับเขา คุณไปตบไปตีไปทุบ ไปทำอะไรรุนแรงก็ยิ่งไปใหญ่เลย แล้วลูกจะหลุดจากมือคุณไปทันทีเลย พอโตขึ้นมาหน่อยจะคิดแล้วว่าไม่อยู่แล้วบ้านหลังนี้ ไม่ไหวแล้ว เขาไม่เปิดรับแบบนี้ แล้วเราจะทำยังไง ลูกเราก็ต้องเสียคน ออกไปเดี๋ยวเป็นปัญหาสังคม เพราะฉะนั้นเราต้องเปิดรับ ต้องเปิดกว้าง เราต้องเป็นพ่อแม่รุ่นใหม่ที่เข้าใจลูก เข้าใจในสิ่งที่ลูกเป็น เพราะฉะนั้นทุกวันนี้พี่แฮปปี้ ครอบครัวพี่แฮปปี้ทั้งหมด ลูกจะเป็นยังไงก็ช่าง แต่เขาเป็นเด็กดีของเรา เป็นคนตั้งใจเรียน ทำอะไรให้พ่อแม่สบายใจ แค่นี้พี่ก็มีความสุขแล้ว