โอกาสทองของไทย เป้าหมายสำหรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
ตลาดสำหรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์นั้นมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ โดยการจัดอันดับของ The International Healthcare Research Center (IHRC) แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยติดอันดับ 6 ของโลก เนื่องด้วยการมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่าอีกหลายประเทศและประเทศไทยเองขึ้นชื่อเรื่องการมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลาย
ในภูมิภาคเอเชียนั้น เรียกได้ว่าไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ในปัจจุบัน เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์และมาเลเซีย ที่กำลังผลักดันเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ แต่เมื่อเทียบคุณภาพของระบบการดูแลสุขภาพ ทั้งในแง่ของบุคลากรทางการแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมัยแล้ว พบว่าของไทยมีข้อได้เปรียบในด้านการแข่งขันที่โดดเด่น ทั้งความพร้อมที่สามารถให้บริการอย่างมีมาตรฐานระบบสากล ซึ่งในปัจจุบันไทยมีจํานวนสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI (Joint Commission International Accreditation) มากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 56 แห่ง และเป็นอันดับ 4 ของโลกอีกด้วย รวมถึงคุณภาพของโรงพยาบาลเอกชนในไทยยังติดอันดับ 1 ใน 10 สถานพยาบาลยอดเยี่ยมระดับโลกสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในช่วงที่ผ่านมา และยังสามารถพัฒนาไปได้มากกว่านั้นอีกในอนาคต
เว็บไซต์ MyMediTravel เป็นเว็บไซต์ชั้นนำแห่งเดียว ที่ให้บริการค้นหาโรงพยาบาลและคลินิก แยกตามประเภทการรักษาหรือการทำศัลยกรรม ที่ดีที่สุดในประเทศไทย รวมถึงมีข้อมูลจากสถานพยาบาลทั่วโลกตามทุกความต้องการของคุณ ซึ่งมีจุดเด่นของเว็บไซต์คือ สามารถขอใบเสนอราคาได้ฟรี, มีรายละเอียดครบถ้วน, มีตัวเลือกมากมาย, ราคาเป็นปัจจุบันและถูกที่สุด, ที่สำคัญที่สุดนั้นข้อมูลของคุณจะถูกเก็บเป็นความลับ โดยบริการทั้งหมดนี้ ฟรี! ไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ก่อนการรักษาของคุณจะเสร็จสิ้น
ฟังก์ชั่นต่าง ๆ บนเว็บไซต์ MyMediTravel ช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณสามารถค้นหาการทำศัลยกรรมหรือการรักษาที่คุณต้องการ ในขณะเดียวกันคุณยังสามารถเปรียบเทียบราคา, รีวิว, สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของสถานพยาบาล, การรับรองมาตรฐานต่างๆ, ภาษาที่ให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ทั้งหมดนั้นตรงตามความต้องการของคุณ และยิ่งไปกว่านั้นยังมีเจ้าหน้าที่ของทางบริษัท ที่คอยให้คำปรึกษาและช่วยวางแผนการรักษาร่วมกับคุณ จนแน่ใจว่าคุณจะได้รับการรักษาจนแล้วเสร็จ
คุณดาเร็น ลอยด์ ผู้บริหารจาก MyMediTravel ได้อธิบายว่า :
“ เราทำงานร่วมกับโรงพยาบาลและคลินิก กว่า 43 ประเทศทั่วโลก และ 48% ของผู้ใช้บริการทั้งหมดต้องการข้อมูล เกี่ยวกับการมาทำศัลยกรรมที่ประเทศไทย โดยส่วนใหญ่สนใจในเรื่องการเสริมความงาม โดยมีการเสริมเต้านม ที่เป็นการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ได้แก่ การกำจัดไขมัน, การยกกระชับก้น และ การตกแต่งแคม
เราถามคุณดาเร็นต่อว่า ทำไมเขาถึงคิดว่าประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่ได้รับยอดนิยมจากนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์?
คุณดาเร็น ตอบดังนี้ว่า
1. “ความมีชื่อเสียง” ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ลงทุนอย่างหนักในด้านตลาดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ จนทำให้เกิดโรงพยาบาลหรือคลินิกชั้นนำ ที่ได้รับมาตรฐานการรับรองต่าง ๆ กว่า 60 แห่ง และสถานพยาบาลขนาดกลางที่มีชื่อเสียงหลายร้อยแห่งทั่วประเทศ มากไปกว่านั้นประเทศไทยมีทีมศัลยแพทย์มากมาย ที่ทำงานในระดับสากล มากด้วยประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะในแต่ละสาขา หากใครก็ตามที่ได้เคยใช้บริการด้านศัลยกรรมเสริมความงามในประเทศไทยแล้ว เขาเหล่านั้นก็มักเกิดความประทับใจและบอกเล่า ประสบการณ์ที่ได้รับมานั้น ผ่านรีวิวของเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก
2. “ราคา” เป็นปัจจัยหลักในการเลือกใช้บริการ ดังนั้นโรงพยาบาลและคลินิกในประเทศไทย ก็จะมีการแข่งขันด้านราคาด้วยการพยายามทำราคาให้ถูกลง แต่ก็ยังต้องคงคุณภาพในการให้บริการและการรักษาไว้เช่นเดิม เช่น โรงพยาบาลศิครินทร์, โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ โรงพยาบาลกมล ที่กำลังได้รับความนิยมเพราะมีชื่อเสียงในการทำศัลยกรรมผ่าตัดแปลงเพศทั้งหญิงและชาย และทำตาสองชั้น รวมถึงการผ่าตัดกล่องเสียง ซึ่งดึงดูดให้ผู้ที่ต้องการแปลงเพศทั้งชาวไทยและต่างประเทศเลือกมาทำการศัลยกรรมเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าเป็นเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าในต่างประเทศ 2-3 เท่านั่นเอง
3. “เวลา” ส่วนใหญ่คนไข้มักจะต้องการให้มีการรักษาแล้วเสร็จภายในวันที่จองไว้ ซึ่ง 9 ใน 10 เคส เป็นไปตามนั้น ส่วนอีก 1 เคสอาจจะมีการรักษาต่อได้ในวันถัดไป ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จของบุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญและมาตรฐานการรักษาที่ดี
คุณดาเร็น ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย สามารถทำราคาได้ต่ำกว่าของโรงพยาบาลต่าง ๆ ในประเทศตะวันตกได้อย่างสบาย เพราะที่นี่สามารถประหยัดต้นทุนในเรื่องการก่อสร้าง, ต้นทุนการดำเนินการและการบำรุงรักษาโรงพยาบาล และเรื่องค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากร แต่ไม่ได้ลดคุณภาพของการรักษาหรือดูแลคนไข้ลงไปตาม ดังนั้นจึงเป็นผลพลอยได้ที่ดีต่อผู้บริโภคในการเลือกประเทศไทยเป็นที่สำหรับดูแลสุขภาพพร้อมกับการมาท่องเที่ยวนั่นเอง