เด็กอนุบาลถูกไฟชอร์ตดับขณะเล่นชิงช้า ญาติคาใจเคยแจ้งแล้ว แต่ไม่มีใครซ่อม
เด็กอนุบาล 2 ถูกไฟชอร์ตดับขณะเล่นชิงช้าภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ญาติคาใจเคยแจ้งแล้ว แต่ไม่มีใครซ่อม ด้าน ผอ. โต้ไม่เคยได้รับแจ้ง
ญาตินำร่าง ด.ช.อัศวิน (สงวนนามสกุล) หรือ น้องโมเดล อายุ 5 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.โนนสุวรรณ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน พื้นที่ หมู่ 3 ต.ทุ่งจังหัน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ภายหลังจากที่น้องโมเดลถูกไฟฟ้าชอร์ตขณะเล่นชิงช้าที่สนามเด็กเล่นกลางแจ้งภายในโรงเรียนเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ได้พูดคุยกับตาของเด็ก ซึ่งเล่าว่า พ่อแม่เด็กไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด ตนเป็นคนดูแลหลาน ไปรับส่งโรงเรียนทุกวัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรับไม่ได้เพราะเด็กไม่ได้ซุกซน ไปเล่นของเล่นตามที่โรงเรียนกำหนด แต่กลับมาพบกับเหตุการณ์แบบนี้
ขณะที่ ป้าเด็กเล่าว่าหลังได้รับแจ้งจากโรงเรียนตนไปที่โรงเรียนทันที พบว่าหลานนอนพาดกับชิงช้า ตอนนั้นหลานหมดสติแล้ว แต่น่าจะเป็นเวลานาน เพราะเด็กเข้าห้องหมดแล้ว ครูออกมาดูในภายหลัง เบื้องต้นได้ช่วยเหลือด้วยการซีพีอาร์แล้วนำส่งโรงพยาบาลโนนสุวรรณ ซึ่งไม่ทันเพราะน้องไม่มีชีพจรแล้ว ตอนนั้นทราบทันทีว่าหลานถูกไฟที่รั่วออกมาจากเสาไฟส่องแสงสว่างชอร์ต หลังเกิดเหตุครูโรงเรียนได้มาช่วยเยียวยาในระดับหนึ่ง แล้วขอไม่ให้เป็นข่าว เพราะโรงเรียนจะเสียหาย แต่พ่อแม่เด็กไม่ยอมไปร้องต่อมูลนิธิปวีณา ก่อนจะมีการแชร์ข่าวต่อกัน
จริงแล้วจุดนี้เคยมีคนเคยถูกไฟชอร์ตมาแล้วตอนแข่งกีฬาสี เคยแจ้งโรงเรียนแล้วแต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ สุดท้ายหลานตัวเองต้องมาเป็นผู้รับเคราะห์ เสียใจเพราะหลานเพิ่งเปิดเทอมมาได้เพียง 2 วัน
ด้าน นายประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) ผอ.โรงเรียน กล่าวว่าเบื้องต้นทางโรงเรียนได้พยายามจะช่วยเหลือเยียวยา ด้วยการเบิกเงินประกันชีวิตอุบัติเหตุจากบริษัทประกันภัย เมื่อถาม ผอ.สาเหตุเกิดจากอะไร และเคยมีชาวบ้านมาแจ้งแล้วแต่ไม่มีการซ่อม ผอ.ตอบว่า”ไม่เคยมีใครมาแจ้ง”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อ.เจษฎา ให้ความรู้เคส ฝังทรายแรงงานเมียนมาถูกไฟชอร์ต ช่วยให้ฟื้นไม่ได้
- สลด พนักงาน กฟภ. อนาคตไกล ไฟช็อตดับ ระหว่างช่วยซ่อมบ้านน้ำท่วม นครศรีธรรมราช
- น้ำท่วมคร่าชีวิต “นายหัว” เจ้าของปั๊มน้ำมัน จ.ชุมพร ระดับ 100 ล้าน ถูกไฟช็อตดับระหว่างติดตั้งเครื่องสูบน้ำหน้าบ้าน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





