สอบเข้ม หมอราดน้ำร้อนเด็ก พบ 4 ข้อสุดพิลึก ทั้งใช้สเตียรอยด์-ยาไมเกรนรักษาไข้
เพจดัง Drama-addict โพสต์ข้อความวิเคราะห์ผลการตรวจสอบคลินิกใน จ.ชลบุรี ที่ก่อเหตุราดน้ำร้อนใส่เด็ก 3 ขวบ โดยระบุว่า คำวิธีการรักษาของคลินิกมีแต่เรื่อง “พิลึก” เต็มไปหมด ผิดหลักการแพทย์อย่างร้ายแรง 4 ประการ
1. อ้างเช็ดตัวน้ำร้อนรักษาอาการรุนแรง
คลินิกอ้างว่า เด็กยังไม่ชัก แต่อาการรุนแรงอาจเสียชีวิต จึงใช้ผ้าขนหนูเยื่อไผ่พับสี่ชั้น เทน้ำร้อนที่เป็นตัวยาคาร์บอน ละลายลงบนผ้า แล้วนำด้านที่ไม่โดนน้ำร้อนวางบนตัวเด็กเพื่อเช็ดตัว ทั้งนี้ความจริงแล้ว ปกติอาการชักจากไข้ ไม่ทำให้เด็กเสียชีวิต การปฐมพยาบาลที่ถูกต้องคือจัดเด็กนอนตะแคง ห้ามงัดปาก
ส่วนการเช็ดตัวเพื่อลดไข้ ต้องใช้น้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่น (ประมาณ 37-38 องศา) ห้ามใช้น้ำร้อน เด็ดขาด
2. จ่ายยาไมเกรนให้เด็กกิน
คลินิกชี้แจงเพิ่มเติมว่า วิธีเช็ดตัวด้วยน้ำร้อนดังกล่าว เป็นแนวทางที่ใช้กับผู้ป่วยทุกเคส โดยเตรียมกาต้มน้ำร้อนไฟฟ้าไว้ตลอดเวลา ซ้ำให้ยารับประทานทันที ได้แก่ คาร์บอน, พาราเซตามอล และ “Avamigran” ผสมน้ำร้อน
Drama-addict ตั้งข้อสังเกตว่า Avamigran คือ ยารักษาไมเกรน ประกอบด้วย Ergotamine และ Caffeine ไม่ใช่ยารักษาอาการปวดหัวจากไข้ทั่วไป ยานี้ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงรุนแรง การจ่ายยาตัวนี้ให้เด็กที่มาด้วยอาการไข้จึงเป็นเรื่องที่แปลกมาก

3. นักวิชาการเป็นผู้ฉีดยา
คลินิกให้พนักงานในสถานพยาบาลที่เป็นนักวิชาการสาธารณสุข เป็นผู้ฉีดยา Dexamethasone ร่วมกับ Lincomycin ให้เด็ก Drama-addict ชี้ว่าการให้บุคลากรอื่นที่ไม่ได้รับอนุญาต (เช่น แพทย์ หรือพยาบาล) มาฉีดยาให้เด็ก ถือว่าไม่ถูกต้อง
4. ฉีดสเตียรอยด์ทั้งที่เด็กอาจติดเชื้อ
ยา Dexamethasone ที่ฉีดให้เด็ก เป็นยากลุ่มสเตียรอยด์ เพจดังเตือนว่ายาตัวนี้เป็นยายอดฮิตที่คลินิกมักฉีดให้คนไข้ แต่ความจริงควรระมัดระวัง ไม่ควรฉีดในเคสที่มีการติดเชื้อ เพราะยาจะไป “กดภูมิคุ้มกัน” ของร่างกาย
นอกจากนี้ เพจ Drama-addict ยังระบุว่า คลินิกอ้างว่าแผลไหม้ของเด็กเป็นเพียงระดับตื้น (First-degree) แต่เมื่อดูจากสภาพแผลจริง น่าจะรุนแรงกว่านั้น คือระดับ 2-3 เป็นอย่างน้อย
เพจดังสรุปว่า ทุกอย่าง Weird พิลึกไปหมด การที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับแพทยสภาเข้าไปตรวจสอบและดำเนินคดีจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว

ด้าน ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีได้กำหนดมาตรการเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยกรณีความผิดที่ 1–3 จะเรียกผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลเข้ารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาในวันที่ 30 ต.ค.68 เวลา 10.00 น. เพื่อดำเนินการเปรียบเทียบปรับและปรับเป็นพินัยต่อไป ส่วนกรณีความผิดที่ 4 จะรวบรวมข้อมูลและส่งต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ (สภ.บ่อวิน) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ติดตาม The Thaiger บน Google News:





