ข่าวการเมือง

จำคุก “ใบปอ ทะลุวัง” ดคี 112 ไม่รอลงอาญา ทำโพลถึงสถาบัน

ศาลสั่งจำคุก ใบปอ ทะลุวัง ชี้มีเจตนาตั้งคำถามการใช้อำนาจ แต่ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหตุขณะเกิดเหตุอายุน้อย เป็นนักศึกษา ทำประโยชน์เพื่อสังคม ทนายยื่นหลักทรัพย์ 1 แสนบาท ขอประกันตัวสู้คดี

28 ต.ค. 68 ศาลอาญา ได้นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ (ใบปอ ทะลุวัง) เป็นจำเลยที่ 1, น.ส.สุพิชฌาย์ ชัยลอม (เมนู) เป็นจำเลยที่ 2 (ปัจจุบันหลบหนี) และ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม (บุ้ง) เป็นจำเลยที่ 3 (เสียชีวิตแล้ว) ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

คดีนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2565 พวกจำเลยถูกกล่าวหาว่าร่วมกันทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ในหัวข้อ “เห็นด้วยหรือไม่ที่รัฐบาลให้กษัตริย์ใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย” กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นบริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตจนถึงสถานีสนามเป้า ถนนพหลโยธิน กทม.

ในชั้นพิจารณาคดี จำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว ในการนัดฟังคำพิพากษาวันนี้ น.ส.ณัฐนิช (ใบปอ) จำเลยที่ 1 ได้เดินทางมาศาล โดยมีกลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจ

ศาลได้พิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกัน ฝ่ายโจทก์มีพยานเป็นเจ้าพนักงานตำรวจสืบสวน 7 ปาก จากหลายพื้นที่รับผิดชอบ พยานทั้งหมดเบิกความสอดคล้องกันว่า แม้จะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้โพสต์ข้อความเชิญชวนในเพจ “ทะลุวัง” ให้ประชาชนมาร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอำนาจของสถาบันตามสถานีรถไฟฟ้า

ส่วนที่จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ผู้ดูแลเพจ ไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความเชิญชวน แต่จำเลยยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับกลุ่มที่เดินทางไปทำกิจกรรม สอบถามความคิดเห็นประชาชนกับกลุ่มทะลุวัง

จำเลยยังยอมรับด้วยว่า ได้แจกสติกเกอร์ให้กับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม เพื่อนำไปติดใต้ข้อความว่า “เห็นด้วย” หรือ “ไม่เห็นด้วย” เกี่ยวกับการใช้อำนาจของสถาบัน

ศาลวินิจฉัยว่า “การกระทำของจำเลยมีเจตนาเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมซึ่งย่อมเล็งเห็นผลกับพวกที่เข้าร่วมกิจกรรมตั้งข้อสงสัยกับการใช้อำนาจ” ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้องจริง ส่วนคำเบิกความของจำเลยไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้

ศาลพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 ฐานร่วมกันดูหมิ่นสถาบัน ให้จำคุก 3 ปี

อย่างไรก็ตาม ศาลพิจารณาว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 มีอายุน้อยและยังเป็นนักศึกษา นอกจากนี้ยังได้ทำประโยชน์ช่วยเหลือสังคมหลายอย่าง เช่น สอนหนังสือให้ผู้พิการทางสายตา เป็นจิตอาสาสภากาชาดไทย และบริจาคดวงตาให้กับประชาชน

ศาลจึงเห็นสมควรลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา

ภายหลังจากศาลมีคำพิพากษา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นทนายความของจำเลย ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 100,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ณัฐนิช ในระหว่างอุทธรณ์คดี ขณะนี้คำร้องดังกล่าวยังอยู่ระหว่างรอการพิจารณาจากศาล

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button