คดีดัง ลิซซี่ บอร์เดน ฆ่าโหดพ่อแม่ด้วยขวาน ไขปริศนา ทำไมศาลตัดสินให้พ้นผิด

คดีลิซซี่ บอร์เดน ฆาตกรรมโหดพ่อแม่ด้วยขวาน การพิจารณาคดีประวัติศาสตร์ ไขปริศนา ทำไมเธอถึงถูกกล่าวหา แต่ศาลตัดสินให้พ้นผิด
“Lizzie Borden took an axe,
And gave her mother forty whacks.
When she saw what she had done,
She gave her father forty-one.”
“ลิซซี่ บอร์เดน คว้าขวานมา
จามแม่ไปสี่สิบหนา
เมื่อเห็นผลงานที่ทำ
ก็จามพ่อซ้ำสี่สิบเอ็ดพลัน”
บทเพลงเด็กเล่นนี้โด่งดังไปทั่วสหรัฐอเมริกา มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของหนึ่งในคดีฆาตกรรมปริศนาที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ เรื่องราวของ ลิซซี่ บอร์เดน หญิงสาวผู้ถูกกล่าวหาว่าใช้ขวานสังหารพ่อกับแม่เลี้ยงของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม แต่กลับถูกตัดสินให้พ้นผิด ทิ้งไว้เพียงคำถามที่ยังไม่มีคำตอบมานานกว่าศตวรรษ
ลิซซี่ บอร์เดน คือใคร?
ลิซซี่ แอนดรูว์ บอร์เดน (Lizzie Andrew Borden) เกิดเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 1860 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ของไทย ในเมืองฟอลล์ริเวอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นลูกสาวของ แอนดรูว์ แจ็กสัน บอร์เดน นักธุรกิจผู้มั่งคั่งจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และโรงงานทอผ้า กับภรรยาคนแรก ซาราห์ แอนโธนี มอร์ส หลังจากแม่ของเธอเสียชีวิต แอนดรูว์ได้แต่งงานใหม่กับ แอ็บบี้ เดอร์ฟี เกรย์
ครอบครัวบอร์เดนมีฐานะร่ำรวย แต่แอนดรูว์ขึ้นชื่อเรื่องเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวอย่างมาก บ้านของพวกเขาไม่มีแม้กระทั่งน้ำประปาหรือห้องน้ำในร่ม ซึ่งเป็นเรื่องแปลกสำหรับครอบครัวที่มีฐานะระดับนั้นในยุคนั้น
ลิซซี่ในวัย 32 ปี เป็นหญิงโสดที่ยังไม่ได้แต่งงาน เธอยังคงอาศัยอยู่ในบ้านกับพ่อ แม่เลี้ยง และเอ็มมา พี่สาวของเธอ ชีวิตของลิซซี่ดูเหมือนจะเรียบง่าย เธอมีส่วนร่วมกับกิจกรรมในโบสถ์และชุมชน แต่มีรายงานว่าความสัมพันธ์ภายในครอบครัวไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่างสองพี่น้องกับแม่เลี้ยงเรื่องทรัพย์สินมรดก
วันเกิดเหตุฆาตกรรม
เช้าวันที่ 4 สิงหาคม 1892 ในวันนั้น มีเพียงลิซซี่ พ่อ แม่เลี้ยง และบริเจต ซัลลิแวน สาวใช้ อยู่ที่บ้าน ส่วนเอ็มมาพี่สาวเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนต่างเมือง
เวลาประมาณ 11:10 น. ลิซซี่ร้องเรียกบริเจตด้วยความตื่นตระหนกว่า “มาเร็ว! พ่อตายแล้ว มีคนเข้ามาฆ่าพ่อ” บริเจตวิ่งเข้ามาพบร่างของแอนดรูว์ บอร์เดน นอนเสียชีวิตบนโซฟาในห้องนั่งเล่น สภาพศพถูกจามด้วยของมีคมคล้ายขวานบริเวณศีรษะถึง 11 ครั้ง
ไม่นานหลังจากนั้น ร่างของแอ็บบี้ บอร์เดน แม่เลี้ยง ก็ถูกพบบริเวณชั้นสองของบ้านในห้องนอนแขก สภาพศพของเธอถูกจามอย่างโหดเหี้ยมถึง 19 ครั้ง จากการชันสูตรพบว่าแอ็บบี้เสียชีวิตก่อนแอนดรูว์ประมาณ 90 นาที
แล้วใครเป็นคนฆ่า?
ลิซซี่ บอร์เดน กลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลักทันที พฤติการณ์และคำให้การของเธอเต็มไปด้วยข้อพิรุธหลายอย่าง ลิซซี่ให้การสับสน พูดกลับไปมางหลายครั้งเกี่ยวกับสิ่งที่เธอทำในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เมื่อมีการฆาตกรรม ย่อมมีแรงจูงใจเบื้องหลัง อัยการคดีนี้เชื่อว่าแรงจูงใจมาจากการที่ลิซซี่ต้องการมรดก และเกลียดชังแม่เลี้ยง
มีพยานให้การว่าหนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ ลิซซี่พยายามซื้อกรดพรัสซิก (ไซยาไนด์) จากร้านขายยา แต่เภสัชกรปฏิเสธที่จะขายใหไม่กี่วันหลังเกิดเหตุฆาตกรรม เพื่อนของลิซซี่เห็นเธอกำลังฉีกและเผาเสื้อคลุมสีน้ำเงินตัวหนึ่งในเตาไฟ เมื่อถูกถาม ลิซซี่อ้างว่าเสื้อตัวนั้นเปื้อนสี
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจำเลยโต้แย้งอย่างหนักแน่นว่าหลักฐานทั้งหมดเป็นเพียงหลักฐานแวดล้อม ไม่มีหลักฐานทางกายภาพใดๆ ที่เชื่อมโยงลิซซี่กับอาชญากรรมได้โดยตรง ไม่พบรอยเลือดบนเสื้อผ้าของเธอในวันที่เกิดเหตุ ไม่พบอาวุธสังหารที่แน่ชัด แม้จะพบหัวขวานที่ไม่มีด้ามในห้องใต้ดิน แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นอาวุธที่ใช้
ภาพลักษณ์ของลิซซี่ในฐานะสตรีจากตระกูลดี มีการศึกษา และเคร่งศาสนา ทำให้คณะลูกขุนซึ่งประกอบด้วยผู้ชายทั้งหมดในยุคนั้น ไม่เชื่อว่าผู้หญิงบอบบบางแบบจะลงมือก่อเหตุฆาตกรรมที่โหดร้ายทารุณเช่นนี้ได้
พลิกคำตัดสินช็อกอเมริกา
หลังจากการพิจารณาคดีนาน 10 วัน ในวันที่ 20 มิถุนายน 1893 คณะลูกขุนใช้เวลาปรึกษาเพียง 90 นาที ก่อนจะกลับมาพร้อมคำตัดสินให้ ลิซซี่ บอร์เดน ไม่มีความผิด ในทุกข้อกล่าวหา
แม้กฎหมายจะตัดสินให้เธอเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่สังคมเมืองฟอลล์ริเวอร์กลับไม่คิดเช่นนั้น เธอกับพี่สาวได้รับมรดกมหาศาลและย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่หรูหรากว่าเดิมชื่อว่า “เมเปิลครอฟต์” แต่ลิซซี่ก็ถูกสังคมตราหน้า กีดกัน ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างโดดเดี่ยวในเมืองเดิมจนกระทั่งเสียชีวิตด้วยโรคปอดบวมในปี 1927 ขณะอายุ 66 ปี
คดีฆาตกรรมครอบครัวบอร์เดนยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ ไม่มีผู้ต้องสงสัยรายอื่นถูกตั้งข้อหา และคดีนี้ไม่เคยถูกคลี่คลายอย่างเป็นทางการ เรื่องราวของลิซซี่ บอร์เดน จึงกลายเป็นตำนานอาชญากรรมที่ถูกเล่าขาน ศึกษา ถกเถียงกันไม่รู้จบ ว่าแท้จริงแล้ว เธอคือฆาตกรเลือดเย็นที่รอดพ้นจากกระบวนการยุติธรรม หรือเป็นเพียงเหยื่อที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ผิดที่ผิดเวลา
Netflix ขุดคดีสะเทือนขวัญ ปัดฝุ่นตำนานขวานปริศนา สู่จออีกครั้ง
ไรอัน เมอร์ฟี ผู้สร้างซีรีส์ “Monster” ที่ขึ้นชื่อเรื่องการนำเสนอเรื่องราวอาชญากรรมจริงในมุมมองที่ลึกซึ้ง ชวนอึดอัด ได้พิสูจน์แล้วว่าเขามีความสามารถในการดึงดูดผู้ชมให้ดำดิ่งไปกับชีวิตและจิตใจของฆาตกร ไม่ว่าจะเป็นความบ้าคลั่งของดาห์เมอร์ หรือปมชีวิตอันซับซ้อนของพี่น้องเมเนนเดซ ได้เลือกหยิบยกคดีลิซซี่ บอร์เดน มาสร้างในภาคที่ 3
ส่วนบทบาทอันเป็นที่จดจำนี้ Netflix ได้เลือก เอลลา บีตตี้ (Ella Beatty) นักแสดงหน้าใหม่แต่มากความสามารถ มารับบทเป็น ลิซซี่ บอร์เดน ซึ่งนับเป็นความท้าทายอย่างยิ่งในการถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละครที่ถูกมองว่าเป็นทั้งเหยื่อและผู้ร้ายในสายตาของสาธารณชน
แฟนๆ ของซีรีส์ Monster และผู้ที่หลงใหลในคดีอาชญากรรมจริง จะได้ไปสำรวจความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดภายในบ้านบอร์เดน รวมถึงปมความขัดแย้งเรื่องทรัพย์สินมรดก ที่เชื่อว่าเป็นชนวนเหตุของโศกนาฏกรรม รวมถึงบริบททางสังคมและเพศสภาพ เนื่องจากคดีนี้เกิดขึ้นในยุคที่ผู้หญิงมีบทบาทจำกัด ซีรีส์อาจจะนำเสนอว่าเพศสภาพของลิซซี่มีผลต่อการรับรู้ของสังคมและการตัดสินของศาลอย่างไร
แม้คดีจะเก่าแก่ แต่ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญและนักประวัติศาสตร์จำนวนมากที่ศึกษาเรื่องนี้ ซีรีส์อาจจะนำเสนอทฤษฎีใหม่ๆ หรือการตีความหลักฐานที่มีอยู่ให้ผู้ชมได้ขบคิด
ย้อนคดีดัง ฆาตกรรม ห้อง 918 ชั้น 9 หนุ่มเช่าห้องข้างๆ หลอนจนไปเล่ารายการผี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สะเทือนขวัญเคนยา! จับฆาตกรต่อเนื่อง ฆ่าหั่นศพหญิงสาว 42 ศพ
- ย้อนรอย 8 ฆาตกรต่อเนื่องในประเทศไทย คดีโหดอำมหิต
- สาวเมกันขนหัวลุก เพิ่งรู้ สามีเป็นฆาตกรต่อเนื่อง สังหารเด็กสาว 3 ศพ
ติดตาม The Thaiger บน Google News: