ทนายฟ้าใส ชี้ กฎหมาย EU เข้มงวด การโอนเงินจำนวนเท่ากันซ้ำๆ ถี่ๆ ไปต่างประเทศ จะถูกสันนิษฐานว่าเป็น ฟอกเงิน ทันที
จากกรณีดราม่าการโอนเงินของวัดนาป่าพงไปยังประเทศเยอรมนี ทนายฟ้าใส หรือ พัณณ์ณชิตา ไชยเดช กรรมการมูลนิธิทนายกองทัพธรรม กับ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้ออกมาให้ความเห็นเชิงกฎหมายในรายการ โหนกระแส วันนี้ (17/9/68) เพื่ออธิบายว่าเหตุใดพฤติการณ์ดังกล่าวจึงกลายเป็นคดีความในต่างประเทศ โดยชี้ว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจาก บทสันนิษฐานทางกฎหมาย ของสหภาพยุโรป (EU)
ทนายฟ้าใส อธิบายว่า ในกลุ่มประเทศ EU มีกฎหมายอาชญากรรมทางการเงินที่รุนแรงมาก รัฐบาลในแถบนั้นจะให้ความสำคัญกับการโอนเงินที่ผิดปกติอย่างยิ่ง
พฤติกรรมที่เข้าข่ายน่าสงสัยทันที คือ การโอนเงินจำนวนเท่ากัน (เช่น ครั้งละ 10,000 ยูโร) ในระยะเวลาที่ใกล้กัน หรือการโอนที่เกิดขึ้นถี่ ๆ
เมื่อเกิดธุรกรรมในลักษณะนี้ กฎหมายต่างประเทศจะใช้ บทสันนิษฐาน (Legal Presumption) ไว้ก่อนว่า การโอนเงินในรูปแบบดังกล่าวเข้าข่ายเป็น “การฟอกเงิน”
เมื่อธุรกรรมเข้าข่ายบทสันนิษฐานดังกล่าวแล้ว ตำรวจและอัยการของเยอรมนีจำเป็นต้องเข้ามาตรวจสอบบัญชีทันที และธนาคารในต่างประเทศก็มีหน้าที่ต้องระงับบัญชีนั้น ไม่ให้สามารถใช้งานได้
บัญชีดังกล่าวจะถูกระงับไปจนกว่าเจ้าของบัญชีจะสามารถพิสูจน์ได้ว่า เงินที่โอนเข้ามานั้น ไม่ได้เกิดจากมูลฐานความผิดการฟอกเงิน ซึ่งสอดคล้องกับกรณีที่สีกาในเยอรมนีระบุว่าตนกำลังถูกทางการเยอรมนีตรวจสอบ
ทนายฟ้าใส สรุปว่า การโอนเงินในลักษณะดังกล่าว ไม่ว่าจะเข้าบัญชีมูลนิธิหรือบัญชีส่วนตัว แล้วมีคนเบิกจ่ายได้ พฤติกรรมนี้เข้าเงื่อนไขและบทสันนิษฐานของกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงินทันที แม้ว่าเจตนาที่แท้จริงอาจไม่ใช่การฟอกเงินก็ตาม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สรุปดราม่า “พระคึกฤทธิ์” ก่อนชมโหนกระแส แยก 2 เรื่อง 2 สีกาที่ต้องรู้
- ประวัติ พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล วัดนาป่าพง เสียงธรรมแห่ง พุทธวจน
- สรุปม้วนเดียวจบ ย้อนคดีดัง “พระอาจารย์คึกฤทธิ์” เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง ถูกฟ้องโกง 515 ล้าน สุดท้ายพ้นมลทิน
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
