ไม่เหมือนที่คุยกันไว้ 13 กัมพูชา จ่ายหัว 5 พัน หนีอดตายเข้าไทยไม่หยุด ตร.ชายแดนเหนื่อย

ชาวกัมพูชา 13 ชีวิต กับอีก 3 ไนจีเรีย จ่ายค่าหัวคนละ 5000 หวังหนีอดตายเข้าไทย อ้างกลับบ้านเกิดตามที่ ฮุน เซน ป่าวประกาศ สุดท้ายอดอยาก-ไร้งานทำหนักกว่าเดิม
วานนี้ (7 ก.ย.) ทหารกองกำลังบูรพา ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองร้อยทหารพรานที่ 1204 กองพันทหารม้าที่ 30 ได้พบกลุ่มคนต้องสงสัยลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ระหว่างเดินลาดตระเวนบริเวณช่องทางธรรมชาติ บ้านโนนขี้เหล็ก ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชาวเขมรได้ถึง 2 กลุ่ม โดยหลบซ่อนอยู่ในไร่อ้อย ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 90 เมตร เมื่อทหารเข้าตรวจสอบพบกลุ่มแรก 3 คน เป็นชาวไนจีเรีย 3 คน และชาวกัมพูชา 1 คน
อ้างอิงข้อมูลจากช่อง 7 ชาวกัมพูชาทำหน้าที่เป็นผู้นำพา ซึ่งจากการเค้นสอบรับสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างยกกระเป๋าใบละ 300 บาท
ส่วนชาวไนจีเรียทั้ง 3 คน ให้การอ้างว่า ต้องจ่ายค่านำพาให้กับชาวกัมพูชา เป็นเงิน 1,000 ดอลลาร์ หรือราว 32,000 บาท เพื่อเดินทางเข้าไทย โดยชาวไนจีเรียทั้งสามอ้างว่า พวกเขาต้องการไปสถานทูตไนจีเรียประจำประเทศไทยเพื่อขอความช่วยเหลือในการกลับประเทศ
ส่วนกลุ่มที่ 2 ที่จับกุมได้ในพื้นที่บ้านโนนพัฒนา ตำบลผ่านศึก อำเภออรัญแประเทศ ห่างจากชายแดนประมาณ 600 เมตร เป็นกลุ่มชาวกัมพูชา 13 คน แบ่งเป็นชาย 7 คน หญิง 6 คน แบกกระเป๋าสัมภาระเดินลัดเลาะข้ามชายแดน เข้ามาฝั่งไทย
สอบถามชาวกัมพูชาทั้งหมดให้การตรงกันว่า ลักลอบเข้ามา เพื่อต้องการมาหางานทำ เนื่องจากอยู่ฝั่งกัมพูชาขาดแคลนงานและไม่ได้รับการดูแลจากรัฐ ไม่เหมือนอย่างที่นายฮุน มาเนต ผู้นำประเทศและฮุน เซน ที่เป็นบิดาเคยป่าวประกาศไว้
ชาวเขมรที่โดนจับกุมยังเปิดปากเล่าความในใจด้วยว่า ถ้าพวกเขาฝืนทนอยู่ต่อไปมีหวังอดตายแน่ ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจจ่ายค่านำพา คนละ 5,000 บาท แต่สุดท้ายไม่สมหวังเพราะถูกทหารไทยจับได้เสียก่อน
สำหรับทหารชุดจับกุมได้ควบคุมตัวชากัมพูชา 13 คน และชาวไนจีเรีย 3 คน พร้อมผู้นำพาเป็นชาวกัมพูชาอีก 1 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.


อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เขมรหนีเข้าไทย 2 รอบ เปิดปากกลับไปแล้ว อดอยาก-ไม่มีงาน รัฐบาลไม่ช่วยอย่างที่อ้าง
- นักธุรกิจลำพูน เอาผิด พิชชี่ มิสแกรนด์กัมพูชา คดียักยอกทรัพย์
- หนองจานระอุ ไทยส่งกำลัง คฝ.คุมม็อบเขมร ซ้ำขนคนเพิ่ม ปิดถนนร่วมประท้วง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: