ข่าวอาชญากรรม

ลูกชายอลงกต ตัวจริง แจ้งความอดีตพระ ฝากคำถามแรง เพื่อนรักพ่อแบบไหนเอาเลข 13 หลักไปใช้

อัปเดตหลัง อดีตพระอลงกต เจอเค้นสอบข้ามวัน ล่าสุดลูกชายนายอลงกต พูลมุข ออกมาซัดอดีตเพื่อนรักพ่อ ฝากคำถามแรงหลังคนอดีตพระชั้นปกครองสารภาพหลังสึกตั้งใจนำชื่อเพื่อนที่ขอนแก่นไปสมวรอยจริงๆ เพราะต้องการหนีทหาร ปัจจุบันนอนซังเตพร้อม หมอบี อินฟลูฯ ตัวจุดชนวนขุดที่มาบริจาคฉาว

เรียกว่าการสืบสาวหาตัวตนที่แท้จริงของอดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ซึ่งตอนี้กลายสภาพเป็น ”ทิดอลงกต“ เรียบร้อย ทำท่าจะเริ่มคลี่คลายปมขอเท็จจริงออกมาทีละเปราะใหญ่เลยทีเดียว หลังจากเมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เปิดเผยหลังสอบปากคำทิดอลงกตที่ยอมสละผ้าเหลืองกลางโรงพัก พร้อมกับเอ่ยปากสารภาพประวัติความเป็นมาที่แท้จริงของตัวเองว่า เดิมชื่อ นายเกรียงไกร แก้วเพชร ชื่อเล่น “จอร์จ” เคยไปทำงานที่มาเลเซียก่อนที่จะร่วมขณะแสวงบุญเดินทางกลับเข้าไทย พร้อมกับได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์

ส่วนชื่อ “อลงกต พลมุข” ที่เป็นบุคคลเสียชีวิต คนอดีตหลวงพ่อรับว่า เคยเป็นเพื่อนรักกันมาก่อน พอเสียชีวิตจึงแอบอ้างนำชื่อมาใช้ โดยไม่ได้บอกกล่าวกับใครเพราะจำเป็นต้องหลบหนีการเกณฑ์ทหาร

ด้านลูกชายของนายอลงกต พลมุข อดีตข้าราชการที่ถูกอดีตหลวงพ่อนำชื่อ และเลขประจำตัวประชาชนไปใช้ ได้เข้าพบ พงส.กก.1 บก.ป.นานกว่า 4 ชั่วโมง กล่าวว่า ตนได้แจ้งความตำรวจกองปราบเรียบร้อยแล้วจะนำไปสืบสวนต่อ และจะเรียกมาให้ปากคำกล่าวโทษเป็นเรื่องๆ ต่อไป เพราะมีหลายเรื่องมาก

ลูกชายของครอบครัวพลมุขกล่าวอีกว่า ตนตั้งใจให้ปากคำตำรวจเสร็จแล้วอาจจะมีโอกาสได้เจออดีตพระอลงกต จะถามสัก 2-3 เรื่อง แต่เมื่อไม่ได้เจอจึงขอฝากสื่อช่วยถามแทนว่า ท่านรู้จักกับพ่อตนหรือไม่ ? ทำไมถึงเอาข้อมูลของพ่อตนไปใช้ได้

และอีกข้อที่อีกฝ่ายอ้างว่าบิดาตนนั้นเป็นเพื่อนรัก แต่เมื่อเจอแบบนี้ก็อยากถามต่อเช่นกันว่า เพื่อนที่เคารพรักกัน ทำไมถึงทำกันได้ขนาดนี้ด้วย

บิ๊กเต่าหลังสอบปากคำนายอลงกต หรือ เกรียงไกร เพชรแก้ว
แฟ้มภาพ

อัปเดตล่าสุด เมื่อเวลา03.00 น.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นำตัวอดีตพระอลงกต และนายเสกสันน์ หรือ “หมอบี” เข้าห้องขัง ของสอบสวนกลาง หลังถูกควบคุมตัวตามหมายจับตั้งแต่เมื่อ 26 ส.ค.68

ระหว่างคุมตัวเข้าห้องคุมขัง ผู้ต้องหาทั้งสองปฏิเสธที่จะตอบคำถามกับสื่อมวลชนในประเด็นต่างๆ ที่เป็นข้อสงสัย โดยอดีตพระอลงกตยิ้มตอบรับกับสื่อมวลชน แต่จากการสังเกตุ ผู้ต้องหาทั้งสองมีอาการอ่อนเพลียหลังจากถูกสอบปากคำนานกว่า 24 ชม.

การสอบปากคำเบื้องต้น อดีตพระอลงกตยังให้การเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับนายเสกสันน์ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเช่นกัน โดยอ้างว่ามีหลักฐานมาหักล้างการกระทำความผิด จากบัญชีที่เปิดรับบริจาค

ภายหลังการสอบปากคำมีความเห็นค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมหลบหนี และกลัวว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานอื่น ๆ ซึ่งการสอบสวนถือว่าเป็นการสิ้นสุดแล้ว ก่อนนำตัวส่งฝากขังต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางภายในวันนี้ตามลำดับ.

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตาม The Thaiger บน Google News:

0 0 โหวต
Article Rating
สมัครรับข้อมูล
แจ้งเตือนเกี่ยวกับ
0 Comments
เก่าแก่ที่สุด
ใหม่ล่าสุด ถูกโหวตมากที่สุด
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button
0
เราอยากทราบความคิดเห็นของคุณ โปรดแสดงความคิดเห็นx