ไขปม เจ้าอาวาสวัดม่วง เงินหาย 22 ล้าน ยันเงินส่วนตัว บวช 50 พรรษา ปิดกล้อง หวั่นหลุดภาพไม่เหมาะสม

ล้วงลึกปมร้อน เงิน-ทองเจ้าอาวาส วัดม่วง บางแค 22 ล้านหายปริศนา ผกก.แจงยิบ ที่มาทรัพย์สิน หลวงพ่อรับบปิดกล้องวงจรปิดเอง หวั่นหลุดภาพไม่เหมาะสม
เปิดไทม์ไลน์คดีสะเทือนวงการผ้าเหลือง คนร้ายบุกฉกเงินสด 10 ล้าน ทองคำแท่ง 250 บาท จากกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง กลางกรุงมหานคร ตำรวจเร่งสืบสวนคลี่ปมสงสัย ขณะที่ ผกก.สน.เพชรเกษม แจงทุกประเด็นร้อน ทั้งที่มาของเงินสะสม 50 พรรษา สาเหตุที่กล้องวงจรปิดถูกปิดทับ
วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นายศักดา เลิศฤทธิ์สมบูรณ์ ไวยาวัจกรประจำวัด โดยพระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ให้เข้าแจ้งความที่ สน.เพชรเกษม เหตุลักทรัพย์ ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 พระราชวัชรพัฒนาทร เจ้าอาวาสวัดม่วง ให้การว่า ท่านได้มอบหมายภารกิจสำคัญให้ลูกศิษย์ 2 คน คือนายธวัชชัย คำเสน หรือ เดี่ยว และนายทิณกร ต้นแก้ว หรือ เบียร์ ให้ไปเบิกเงินสดจำนวนประมาณ 10 ล้านบาทจากธนาคาร เงินก้อนใหญ่ถูกบรรจุใส่กระเป๋าเดินทาง นำกลับมาเก็บไว้ยังห้องสำนักงานในกุฏิเจ้าอาวาส
แต่แล้วในเช้าวันที่ 29 มิถุนายน ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เวลาประมาณ 8 โมงเช้า เจ้าอาวาสได้เข้ามาในสำนักงานเพื่อจะนำเงินไปใช้จ่ายตามปกติ แต่ท่านกลับพบว่ากระเป๋าเดินทางที่บรรจุเงิน 10 ล้านบาทได้หายไปแล้ว ความตกใจยังไม่จบเพียงเท่านั้น เมื่อตรวจสอบทรัพย์สินอื่น ๆ ก็พบว่าทองคำแท่งน้ำหนักรวม 250 บาท ได้สูญหายไปด้วย
เบื้องต้น พ.ต.อ.ปราโมทย์ ให้ข้อมูลว่า เงินที่หายไปนั้นเป็นบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส ไม่ใช่เงินของวัดแต่อย่างใด
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 2 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม ได้ชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่สังคมให้ความสนใจ กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อออนไลน์ระบุว่าตนออกตัวให้เจ้าอาวาสว่าเงินและทองที่หายไปเป็นเงินส่วนตัว
พ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า ตนเพียงตอบตามที่เจ้าอาวาสให้การมา และไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ทุกคนยังคงอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัย ที่สำคัญตนไม่ได้บอกว่าคดีนี้มีพิรุธ เมื่อสอบถามถึงที่มาของเงิน เจ้าอาวาสตอบว่า “อาตมาบวชมา 50 พรรษา เป็นเงินสะสม อาตมาหมดตัวแล้ว” ท่านยอมรับว่าเป็นความประมาทของตนเองที่ไม่คิดว่าจะมีใครเข้ามาขโมยไป พร้อมทั้งเปิดสมุดบัญชีให้ดูเพื่อยืนยันว่าเป็นเงินส่วนตัว ขอให้ตำรวจตามจับคนร้ายนำเงินมาคืนให้ได้
เจ้าอาวาสยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีไวยาวัจกรแนะนำให้ซื้อทองคำเก็บไว้เก็งกำไร เพราะดอกเบี้ยธนาคารน้อย เงินบางส่วนนำไปทำบุญ ใช้จ่ายในวัด แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เงินวัด ซึ่งจะมีบัญชีแยกต่างหาก มีคณะกรรมการคอยดูแล
สำหรับประเด็นกล้องวงจรปิดในห้องที่เกิดเหตุซึ่งมีกระดาษปิดทับอยู่นั้น เจ้าอาวาสยอมรับว่าเป็นคนนำกระดาษมาปิดไว้เอง เนื่องจากเกรงว่าตอนกลางคืนอาจมีภาพที่ไม่เหมาะสมหลุดออกไป เช่น ภาพขณะนอนหลับในลักษณะที่สบงจีวรเปิด ซึ่งดูไม่ดี แต่หากต้องเดินทางไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศหลายวัน ก็จะนำกระดาษที่ปิดไว้ออก
ส่วนกระแสข่าวเรื่องสุนัขพันธุ์พิตบูลในกุฏิ ในวันที่เข้าตรวจสอบ พบสุนัขแก่ 1 ตัวนอนนิ่งอยู่ ไม่เห่า ส่วนอีกตัวถูกขังในกรงนอกกุฏิ ซึ่งไม่ทราบสายพันธุ์ที่แน่ชัด
ผกก.สน.เพชรเกษม ยืนยันว่า คดีนี้เป็นคดีใหญ่ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บลายนิ้วมือแฝงแล้ว และมีการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 4-5 ราย ทั้งไวยาวัจกร ลูกศิษย์วัด และตัวเจ้าอาวาสเอง
นอกจากนี้ ยังได้ประสานงานไปยังหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อร่วมตรวจสอบและสร้างความโปร่งใสให้กับคดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายและคลี่ปมปริศนาของทรัพย์สินที่หายไปต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 4 โจ๋วัดม่วง รอดนอนคุก คดีรุม บาส มีดคู่ ศาลให้ประกันคนละ 1.5 แสน
- จับสึก เจ้าอาวาสเสพยาบ้าคากุฏิ อ้างสวดมนต์คล่อง-รับกิจนิมนต์ไม่เหนื่อย
- คุมตัว “เจ้าอาวาสวัดป่า” เสพยาบ้า อ้างสวดมนต์ได้นาน รับกิจนิมนต์ ไม่เหนื่อย
ติดตาม The Thaiger บน Google News: