“ฮุนเซน” ถูกจับโป๊ะ แฉกัมพูชาไร้ขีปนาวุธยิงถึงกรุงเทพฯ

จากกรณี สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาอ้างมีอาวุธยิงถึงกรุงเทพฯ นั้น ล่าสุด แหล่งข่าวหน่วยความมั่นคงรายงานจากการวิเคราะห์ยุทธศาสตร์อาวุธกัมพูชายิงถึงกรุงเทพฯ จะทำได้จริงหรือไม่ เรื่องนี้ต้องดูว่าระยะทางจากชายแดนกัมพูชาถึงกรุงเทพฯ อยู่ห่างจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา (บริเวณใกล้สุรินทร์/สระแก้ว) ราว 250–300 กิโลเมตร โดยเฉลี่ย
ดังนั้น อาวุธใดที่จะยิงถึงกรุงเทพฯ ได้จากเขตกัมพูชาต้องมีพิสัยยิงอย่างน้อย 200-300 กิโลเมตรขึ้นไป โดยอาวุธปล่อยทางบกของกัมพูชาที่เป็นที่รู้จักและเปิดเผยสาธารณะ ประกอบด้วย
- PHL-03 MRL : เป็นระบบจรวดหลายลำกล้องของจีน คล้าย BM-30 Smerch
- พิสัยยิงมาตรฐาน 70–130 กม. (ขึ้นอยู่กับกระสุน)
- แม้แต่รุ่นปรับปรุง (AR-2) ก็มีพิสัยราว 150 กม. เท่านั้น
- Type-81/AS-1/WS-1B (บางรุ่น): จรวดหลายลำกล้องขนาดเล็ก-กลาง
- พิสัยต่ำกว่า 100 กม.
ทั้งนี้ แหล่งข่าวความมั่นคง เสริมด้วยว่าทางกัมพูชาไม่มีตามฐานข้อมูลในเรื่องของ 1.ไม่มีหลักฐานว่ากัมพูชามี ขีปนาวุธพิสัยไกลกว่า 200 กม. 2.ไม่มีขีดความสามารถด้าน ขีปนาวุธนำวิถีพื้นสู่พื้น (SRBM, MRBM)และ 3.ไม่มีอากาศยานขับไล่ติดอาวุธปล่อยระยะไกล (เพราะไม่มีฝูงบินขับไล่เลย)
ข้อเท็จจริงคือ ทางกัมพูชาไม่มีเครื่องบินขับไล่ ไม่มีอากาศยานรบ/โจมตี (Fighter Aircraft) ในกองทัพอากาศ ไม่มีเรดาร์ควบคุมการบิน/ระบบสั่งการอากาศสมัยใหม่ ไม่มียุทโธปกรณ์ที่ต้องอาศัยการฝึกนักบินระดับสูง
“แม้แต่ประเทศเล็กกว่าอย่างลาว ยังมี Yak-130 (เครื่องบินฝึกโจมตี) แต่กัมพูชายังไม่มีแม้แต่ UAV รบที่มีอาวุธ”
แหล่งข่าวความมั่นคง กล่าวและว่าสำหรับงบประมาณถือเป็นข้อจำกัดใหญ่ที่สุดของกัมพูชา งบกลาโหมของกัมพูชาในปี 2567 ประมาณ 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(20,000 ล้านบาท)เมื่อเทียบกับงบกลาโหมของไทยซื้อ Gripen E/F เพียง 4 ลำ ใช้งบประมาณ ราว 19,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ งบทั้งกระทรวงกลาโหมกัมพูชาทั้งปี.
ติดตาม The Thaiger บน Google News: