รู้ทัน สัญญาณเตือน ‘มะเร็งปอด’ เช็กอาการเบื้องต้น เป็นแบบนี้ รีบหาหมอก่อนสาย

จากกรณีข่าว เอ๋ พรทิพย์ ตรวจพบมะเร็งปอดระยะที่ 1 สร้างความตกใจให้สามี ป๋อ ณัฐวุฒิ อย่างมาก รวมไปถึงสังคมเริ่มตื่นตัวตระหนักภัยร้ายของโรคนี้ แม้แต่คนอายุน้อยก็เริ่มเป็นเยอะขึ้น ยิ่งกรุงเทพอุดมด้วยมลพิษ PM2.5 ปอดสูดควันพิษทุกวัน ไม่มีใครปลอดภัย
คนที่ยังไม่ได้ป่วย ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยเกอร์ มีวิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งปอด อ้างอิงจากสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกา (American Cancer Society) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาณและอาการที่ควรระวังไว้
วิธีเช็กสัญญาณเตือน อาการโรคมะเร็งปอด
มะเร็งปอดในระยะแรกเริ่มมักไม่แสดงอาการใดๆ จนกว่าโรคจะลุกลามไปแล้ว แต่ผู้ป่วยบางรายก็อาจมีอาการปรากฏให้เห็นได้ อาการที่พบบ่อยที่สุดของมะเร็งปอด ได้แก่
1. ไอเรื้อรัง หรืออาการไอแย่ลงเรื่อยๆ
2. ไอเป็นเลือด หรือมีเสมหะปนเลือดสีสนิม
3. เจ็บหน้าอก มักจะเจ็บมากขึ้นเมื่อหายใจลึกๆ ไอ หรือหัวเราะ
4. เสียงแหบ
5. เบื่ออาหาร
6. น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
7. หายใจถี่ หรือหายใจลำบาก
8. รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลีย
9. ติดเชื้อ เช่น หลอดลมอักเสบและปอดบวม ที่ไม่หายขาดหรือกลับมาเป็นซ้ำ
10. มีเสียงหวีดขณะหายใจ เกิดขึ้นใหม่
สัญญาณเมื่อมะเร็งปอดแพร่กระจาย
หากมะเร็งปอดลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้
1. ปวดกระดูก (เช่น ปวดหลังหรือสะโพก)
2. การเปลี่ยนแปลงของระบบประสาท เช่น ปวดศีรษะ แขนหรือขาอ่อนแรงหรือชา วิงเวียน มีปัญหาการทรงตัว หรือชัก จากการที่มะเร็งแพร่กระจายไปยังสมอง
3. ผิวหนังและตาเหลือง (ดีซ่าน) จากการที่มะเร็งแพร่กระจายไปยังตับ
4. ต่อมน้ำเหลืองบวม (กลุ่มเซลล์ของระบบภูมิคุ้มกัน) เช่น บริเวณคอหรือเหนือกระดูกไหปลาร้า
กลุ่มอาการที่อาจบ่งชี้มะเร็งปอด
มะเร็งปอดบางชนิดสามารถทำให้เกิดกลุ่มอาการเฉพาะได้ เช่น
กลุ่มอาการฮอร์เนอร์ (Horner syndrome) มักเกิดจากเนื้องอกบริเวณส่วนบนของปอด อาจทำให้หนังตาบนข้างหนึ่งตกหรืออ่อนแรง รูม่านตาข้างนั้นเล็กลง เหงื่อออกน้อยหรือไม่เลยที่ใบหน้าซีกนั้น และอาจมีอาการปวดไหล่อย่างรุนแรงร่วมด้วย
กลุ่มอาการหลอดเลือดดำใหญ่สุพีเรียเวนาคาวาอุดตัน (Superior vena cava syndrome):เนื้องอกอาจกดทับหลอดเลือดดำใหญ่ ทำให้เลือดไหลย้อนกลับ เกิดอาการบวมที่ใบหน้า คอ แขน และหน้าอกส่วนบน (บางครั้งผิวหนังอาจมีสีแดงอมฟ้า) รวมถึงหายใจลำบาก ปวดศีรษะ วิงเวียน หรือการรับรู้เปลี่ยนแปลง หากรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
กลุ่มอาการพารานีโอพลาสติก (Paraneoplastic syndromes) เป็นกลุ่มอาการที่ซับซ้อน เกิดจากเซลล์มะเร็งสร้างสารคล้ายฮอร์โมนหรือทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีเนื้อเยื่อปกติ อาจส่งผลต่อระบบประสาทหรือระบบต่อมไร้ท่อ ทำให้มีอาการหลากหลาย เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเป็นตะคริว คลื่นไส้ อาเจียน สับสน น้ำหนักขึ้น เกิดรอยช้ำง่าย กระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อย ท้องผูก ปัญหาการทรงตัว การพูด การกลืน หรือการมองเห็น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ความจำ และพฤติกรรม
แม้ว่าอาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มักเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่มะเร็งปอด แต่หากคุณมีอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม การตรวจพบมะเร็งปอดในระยะเริ่มต้นจะช่วยให้การรักษามีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น
หมอมานพเตือน ไม่สูบบุหรี่ ก็เสี่ยงป่วยมะเร็งปอด เพราะ PM 2.5
ศาสตราจารย์ นายแพทย์มานพ พิทักษ์ภากร จากศูนย์จีโนมิกส์ศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2568 คุณหมอมานพกล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของคุณแม่ นนกุล ชานน และข่าว เอ๋ พรทิพย์ ภรรยา ป๋อ ณัฐวุฒิ ป่วยเป็นมะเร็งปอด
คุณหมอมานพให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันพบผู้ป่วยมะเร็งปอดชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงชาวเอเชีย และมีแนวโน้มพบในผู้มีอายุน้อยลง หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญคือมลพิษทางอากาศ PM2.5 ซึ่งเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพของคนในเมือง
การรักษามะเร็งปอดในปัจจุบันมีความก้าวหน้า มียามุ่งเป้าหลายชนิดที่ผู้ป่วยสามารถรับประทานได้และช่วยให้มีชีวิตยืนยาวขึ้น แต่ยาดังกล่าวมีราคาสูง ไม่สามารถเบิกจ่ายตามสิทธิประกันสุขภาพได้ สิ่งนี้เป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงการรักษาในระยะยาว
คุณหมอมานพยังกล่าวถึง PM2.5 ว่าเป็นภัยต่อสุขภาพที่รุนแรง ประชาชนไม่ควรละเลย โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียที่มักมีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ทำให้ผู้คนมีความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงแม้จะไม่มีพฤติกรรมสูบบุหรี่
กลุ่มผู้ที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่
- ผู้หญิงชาวเอเชีย โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในเขตเมืองใหญ่
- ผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ แต่มีอาการผิดปกติ เช่น ไอเรื้อรัง หรือหอบเหนื่อย
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูง
แพทย์แนะนำให้ประชาชนใส่ใจดูแลสุขภาพปอด ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจาก PM2.5 หากจำเป็นควรใช้หน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น หน้ากาก N95 หรือหน้ากากที่มีคุณสมบัติเทียบเท่า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ส่งกำลังใจ เจสซี เจ นักร้องดัง ป่วยมะเร็งเต้านม เตรียมผ่าตัดหลังคอนเสิร์ตใหญ่
- ย้อนอาการ เอ๋ พรทิพย์ ปัสสาวะเป็นเลือด ก่อนตรวจพบมะเร็งปอด
- เน็ตไอดอลสาวดับ มะเร็งกระเพาะคร่าชีวิต รักษา 1 ปีไม่ดีขึ้น ชี้สัญญาณเตือน
ติดตาม The Thaiger บน Google News: