พ่อเลี้ยงทาสยา ยอมรับฆ่าลูก 2 ขวบ ยัดกระสอบ โยนทิ้งลำน้ำคำจริง

พ่อเลี้ยงทาสยา ยอมรับ ก่อเหตุฆ่าลูก 2 ขวบจริง เผย เดินไปอุ้มจากในบ้าน ก่อนฟาดลงพื้น 5 ครั้งจนตาย จากนั้นยัดร่างลงกระสอบโยนทิ้งลำน้ำคำ
วันนี้ (13 พ.ค.) พ.ต.ท.ภาสกร สุขะ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้นำตัวนายชำนาญ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสภาพที่ลงมือทำร้ายเด็กจนเสียชีวิต ก่อนใส่กระสอบและโยนทิ้งลงลำน้ำคำ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รับแจ้งว่า ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 2 ขวบได้หายไปจากบ้านใน ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ตำรวจจึงสอบสวนและพบว่าว่า “ชำนาญ” ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงและสามีใหม่ของนางนามู (แม่เด็ก) มีพิรุธ เพราะหลบหนีออกจากบ้านขณะที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ
วันต่อมา (11 พ.ค.) พบตัวผู้ต้องหาบนถนนสาธารณาในบ้านห้วยผึ้ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวทันที ซึ่งเบื้องต้น เจ้าตัวอ้างไม่รู้เห็นว่าเด็กหายไปได้อย่างไร ซึ่งขัดกับคำให้การของภรรยาว่า นายชำนาญมีพฤติกรรมชอบทำร้ายเด็ก และอุ้มไปช่วงกลางคืนของวันที่ 8 พ.ค. ต่อเนื่องกลางดึกของวันที่ 9 พ.ค.

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนและมอร์ฟีนในร่างกายของ “ชำนาญ” จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนและเฮโรอีน)” พร้อมควบคุมตัว นางนามู สอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากสงสัยว่าอาจรู้เห็นเป็นใจ
ต่อมาวันที่ 12 พ.ค. ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนได้ทำร้ายเด็กจริงเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ค. โดยอุ้มเด็กจากห้องเก็บของเข้าในบ้านแล้วโยนลงพื้น 5 ครั้งจนเด็กเสียชีวิต จากนั้นนำศพใส่กระสอบ ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน โดยวางศพไว้ที่พักเท้า ก่อนนำไปทิ้งที่สะพานข้ามลำน้ำคำเขตบ้านสามัคคีเก่า หมู่ 11 ตำบลแม่ฟ้าหลวง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร
ตำรวจจึงแจ้งข้อหาเพิ่มเติมคือ “ฆ่าผู้อื่น และปิดบังการตาย โดยการซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย”

ขณะที่นางนาตยา แซ่ซัว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านห้วยผึ้ง เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ “ชำนาญ” เป็นคนไปแจ้งประชาสัมพันธ์หมู่บ้านเองว่าเด็กหายไป ชาวบ้านจึงช่วยกันตามหา ส่วนนางนามูก็ไปแจ้งความกับตำรวจ กระทั่งพบศพตามข้างต้น ส่วนนายชำนาญที่หลบหนีไปนั้น ตนทราบว่าญาติได้เกลี้ยกล่อมให้กลับมามอบตัวที่หมู่บ้าน
ด้านนายจะวา แซ่ซา พ่อแท้ ๆ ของเด็ก กล่าวว่าตนไม่เคยคิดเลยว่าคนเราจะทำคนร้ายเด็กได้ ดังนั้นคนที่ทำก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่อีก เพราะถ้าเลี้ยงดูเด็กไม่ไหวก็ควรเอามาให้ตนเลี้ยง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมเอามาให้ และเท่าที่ทราบคือทั้งคู่ (ชำนาญ-นามู) มีพฤติกรรมเสพยา และที่เลิกกันไปก็เพราะเตือนว่าไม่ให้เสพยา แต่อีกฝ่ายก็ไม่ฟัง ดังนั้นขอให้เจ้าหน้าที่ลงโทษในสถานหนักด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไอ้เตี้ย วินเหี้ยม ไม่สลด ขู่ฆ่าเพื่อนตัวเอง เหตุให้เบาะแส ตร. ปมปลิดชีพแม่เฒ่า 89
- พบศพสาวถูก ฆ่ายัดกระสอบ ทิ้งไว้กลางไร่อ้อย คาดฝีมือชายคนสนิท
- จับพ่อใจบาป ฆ่าข่มขืนลูกสาว 13 ตัดมือทิ้งบ้านร้าง
ติดตาม The Thaiger บน Google News: