อย่ามองข้ามท้องผูก เปิดเคสจริง สาวไต้หวันไม่ถ่าย 17 วัน อุจจาระทะลุช่องอก เกือบดับ โชคดีผ่าตัดช่วยเหลือได้ทัน แต่เสียลำไส้บางส่วน หมอแนะวิธีป้องกัน หมั่นดื่มน้ำ กินผัก-ผลไม้
อุทาหรณ์ เพจให้ความรู้ หมอที่ดีที่สุดคือตัวคุณเอง by Saranruss นำเสนอเคสผู้ป่วยหญิงชาวไต้หวัน วัย 23 ปี เกือบเสียชีวิตจากอาการท้องผูกเรื้อรังนานถึง 17 วัน จนเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ไม่คาดคิด อาการท้องผูกที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย อาจอันตรายถึงชีวิตได้หากปล่อยปละละเลย
ตามข้อมูลที่เพจนำเสนอ หญิงสาวรายนี้มีอาการท้องผูกอย่างรุนแรง ไม่สามารถขับถ่ายได้เป็นเวลาติดต่อกันถึง 17 วัน ทำให้อุจจาระเกิดการสะสมและอัดแน่นในลำไส้ใหญ่จำนวนมาก แรงดันที่เกิดขึ้นภายในลำไส้ค่อย ๆ เพิ่มสูงขึ้น จนลำไส้ใหญ่ส่วนหนึ่งเกิดการฉีกขาดและถูกดันทะลุขึ้นไปจนถึงบริเวณช่องอก
ภาวะดังกล่าวทำให้หญิงสาวตกอยู่ในความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง เกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่เข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉินได้ทัน ทำให้รอดชีวิตมาได้ แต่ก็ต้องแลกมากับการสูญเสียลำไส้บางส่วนไปตลิดชีวิต
เพจดังกล่าวชี้ว่า กรณีที่รุนแรงเช่นนี้ แม้จะดูน่ากลัวแต่ต้นตออาจมาจากพฤติกรรมง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันที่หลายคนทำจนเป็นนิสัย เช่น ดื่มน้ำน้อยเกินไป, รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย (กินผัก-ผลไม้น้อย) และชอบอั้นอุจจาระ หรือกลั้นการขับถ่ายเป็นประจำ ส่งผลให้ระบบขับถ่ายทำงานผิดปกติ อุจจาระแข็งและเคลื่อนตัวช้า เกิดการสะสม ทำให้เกิดท้องผูกเรื้อรังและภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายได้ในที่สุด
ทั้งนี้ เพื่อสุขภาพลำไส้ที่ดีและป้องกันปัญหาท้องผูก เพจ “หมอที่ดีที่สุดคือตัวคุณเอง by Saranruss” ได้ฝากคำแนะนำสำคัญไว้ ดังนี้
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ : อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว หรือตามที่ร่างกายต้องการ
2. เน้นอาหารกากใยสูง : เพิ่มการทานผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี
3. เคลื่อนไหวร่างกายเสมอ : ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้
4. ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา : เข้าห้องน้ำเมื่อรู้สึกปวด อย่าอั้น และพยายามฝึกเข้าห้องน้ำเวลาเดิมๆ ทุกวัน
5. อย่าปล่อยให้ท้องผูกนาน : หากมีอาการท้องผูกนานเกิน 2-3 วัน ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด
6. เสริมโปร/พรีไบโอติก (ทางเลือก) : อาจพิจารณาเสริมอาหารที่มีพรีไบโอติก หรือโปรไบโอติก เพื่อเพิ่มจำนวนแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ช่วยปรับสมดุลการขับถ่าย
ทั้งนี้ สุขภาพลำไส้สำคัญมาก เพราะบางครั้งปัญหาเล็ก ๆ ที่เรามองข้าม อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปทั้งชีวิต ฉะนั้นรู้จักสัญญาณเตือนร่างกายตัวเองเสมอ เพราะหมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รพ.ดังขอโทษ ปมจ่ายยาผิด คนไข้ท้องผูก แต่ได้คาลาไมด์ แก้คันมากินแทน
- อาหารแก้ท้องผูก กินอร่อย ย่อยง่าย ขับถ่ายสะดวก
- หมอวินิฉัย เด็กสาว 11 ปี เป็นโรคท้องผูก สุดท้ายกลับมาเสียชีวิตที่บ้าน
ติดตาม Thaiger The บน Google News:
ข่าวล่าสุด
