เตือนภัยสายชาไทย ดื่มเกิน 2 แก้ว/วัน เสี่ยงรับสี Sunset Yellow เกินขนาด

เปิดข้อมูลสีส้ม Sunset Yellow FCF ในชาไทย อย.ไทยอนุญาต WHO รับรอง แต่ยุโรปบางส่วนแบน แนะวิธีเลือกดื่มลดเสี่ยง
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับนิตยสารฉลาดซื้อ เปิดเผยผลการทดสอบเครื่องดื่ม “ชาไทย” หรือชานมเย็นยอดนิยม 15 แบรนด์ดัง สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการเครื่องดื่มและผู้บริโภค ผลการวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการมาตรฐาน ISO 17025 ชี้ชัด พบการใช้สีสังเคราะห์ในทุกตัวอย่างที่ส่งตรวจ โดยหนึ่งในสีที่พบเป็นส่วนใหญ่คือ “Sunset Yellow FCF” (INS 110) หรือสีส้มสดใสอันเป็นเอกลักษณ์ของชาไทยนั่นเอง การค้นพบนี้จุดประเด็นคำถามสำคัญถึงความปลอดภัยในการบริโภคเครื่องดื่มขวัญใจมหาชนชนิดนี้ทันที
Sunset Yellow FCF คืออะไร?
สาร Sunset Yellow FCF จัดเป็นสีสังเคราะห์ผสมอาหารชนิดหนึ่ง ใช้แพร่หลายทั่วโลกเพื่อปรับปรุงสีสันของอาหารเครื่องดื่มให้ดูน่ารับประทาน สำหรับประเทศไทย สารสีชนิดนี้ได้รับอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารบางประเภท
กฎหมายและการกำกับดูแลในไทย
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า ชาที่มีการใส่สีส่วนใหญ่จัดเป็น “ชาปรุงสำเร็จ” มีการแต่งสี กลิ่น รส ตามกฎหมายปัจจุบัน อนุญาตให้เติมสี Sunset Yellow FCF ได้ไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (100 ppm) ในสภาพพร้อมบริโภค ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล (Codex) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ยังถือว่าสีชนิดนี้ปลอดภัยหากใช้ภายใต้ขีดจำกัดกำหนด
อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ประเภท ชาใบ ชาผง หรือชาสมุนไพรสำหรับชงดื่ม ที่มีสีตามธรรมชาติ ไม่อนุญาตให้เติมสีสังเคราะห์ใด ๆ (ยกเว้นสีในกลุ่มคาราเมล)
องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดค่าความปลอดภัยในการบริโภค (ADI – Acceptable Daily Intake) ของ Sunset Yellow FCF ไว้ที่ 0-4 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อวัน ถึงกระนั้น ในบางประเทศ เช่น เดนมาร์ก ฟินแลนด์ และกลุ่มประเทศในยุโรป มีการสั่งห้ามหรือควบคุมการใช้สีชนิดนี้ เนื่องจากมีรายงานการศึกษาและข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพ หากได้รับในปริมาณ “มากเกินกำหนด” สะสมเป็นเวลานาน
ความเสี่ยงจากการบริโภคเกินขนาด
ดร.นุติ หุตะสิงห (เชฟทักษ์) เชฟและนักวิทยาศาสตร์ทางอาหาร ให้ข้อมูลว่า การดื่มชาไทยที่ใส่สีในปริมาณมาก อาจทำให้ร่างกายได้รับสาร Sunset Yellow FCF เกินค่า ADI ที่แนะนำ โดยประเมินว่าการดื่ม “เกิน 2 แก้วต่อวัน” อาจมีความเสี่ยงดังกล่าว
การได้รับสารนี้เกินขนาดสะสม อาจเชื่อมโยงกับผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว เช่น การกระตุ้นอาการสมาธิสั้นในเด็ก (ADHD) รวมถึงความเสี่ยงด้านอื่น ๆ ที่มีรายงานในงานวิจัย เช่น ความเสี่ยงมะเร็ง หรือผลกระทบต่อไต
นอกจากนี้ บทความทบทวนวรรณกรรมในวารสาร Trends in Analytical Chemistry ยังกล่าวถึงการศึกษาที่อาจเชื่อมโยงการบริโภค Sunset Yellow FCF ปริมาณมาก กับกลุ่มอาการสมาธิสั้น (ADHD) และความเสี่ยงด้านสุขภาพอื่น ๆ
ปัจจัยเสี่ยงอื่นในชาไทย
นอกเหนือจากสีสังเคราะห์ เครื่องดื่มชาไทยโดยทั่วไปยังมีส่วนประกอบอื่นที่ควรพิจารณา:
- สารออกซาเลต (Oxalate) พบตามธรรมชาติในชาดำ (วัตถุดิบหลักของชาไทย) การชงเข้มข้นอาจเพิ่มปริมาณสารนี้ ซึ่งเมื่อรวมกับแคลเซียมในร่างกาย อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไต
- น้ำตาลและไขมัน ส่วนผสมจากนมข้นหวาน ครีมเทียม หรือนมปรุงแต่งต่าง ๆ เพิ่มปริมาณน้ำตาลและไขมันในเครื่องดื่มอย่างมีนัยสำคัญ
คำแนะนำสำหรับผู้บริโภค
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และผู้เชี่ยวชาญ ให้คำแนะนำในการเลือกบริโภคชาไทย ดังนี้
- อ่านฉลาก เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชาปรุงสำเร็จในภาชนะบรรจุที่มีเลขสารบบอาหาร (เลข อย.) ตรวจสอบส่วนประกอบ หากมีการใช้สี จะระบุว่า “สีสังเคราะห์” หรือ “สีธรรมชาติ” พร้อมรหัส INS (เช่น INS 110) หรือชื่อสี
- สังเกตสี เลือกดื่มชาที่มีสีใกล้เคียงธรรมชาติ ไม่เข้มหรือมีสีฉูดฉาดจนผิดปกติ ทั้งชาบรรจุกล่องและชาชงตามร้านค้า
- บริโภคพอประมาณ ไม่ควรดื่มชาไทยหลายแก้วต่อวัน ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มให้หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงจากการได้รับสารปรุงแต่งชนิดเดิมซ้ำ ๆ ในปริมาณมาก
โดยสรุป แม้สี Sunset Yellow FCF จะได้รับอนุญาตให้ใช้ในชาไทยปรุงสำเร็จตามกฎหมายไทยและสอดคล้องกับมาตรฐานสากลในปริมาณจำกัด แต่การบริโภคในปริมาณมากเกินไปและต่อเนื่อง อาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพตามข้อมูลการศึกษาและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริโภคจึงควรตระหนัก เลือกซื้อ และบริโภคอย่างเหมาะสม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แนะนำ 3 เครื่องดื่ม บำรุง ตับ-ลำไส้ มีประโยชน์ต่อร่างกาย หาดื่มง่ายในไทย
- 5 แก้วน้ำอันตราย ควรเลิกใช้ ยิ่งใช้นานยิ่งสะสมพิษ ทำลายสุขภาพไม่รู้ตัว
- หมอเจด เตือน 5 อาหาร รสชาติไม่เค็ม ทำไตเสื่อมไม่รู้ตัว
อ้างอิง: นิตยสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ติดตาม Thaiger The บน Google News: