อวสานซูชิปลาดิบ สาว 39 ปวดท้องทรมาน อาเจียน หมอผ่าเจอสิ่งนี้

แพทย์เตือนภัยคนรักซูชิ พบพยาธิ “อะนิซาคิส” ในท้องสาว 39 หลังกินปลาดิบเป็นประจำ ชี้ไทยพบเคสน้อยแต่แนวโน้มเพิ่ม
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เพจ “เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม” เผยเคสผู้ป่วยหญิงวัย 39 ปี ที่ต้องเข้ารับการรักษาด่วนด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรง คลื่นไส้ และอาเจียน ซึ่งมีประวัติชื่นชอบการรับประทานซูชิเป็นประจำ เมื่ออาการไม่ดีขึ้นจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ และผลตรวจสุดช็อกพบสิ่งนี้ในท้อง เพื่อเป็นอุทาหรณ์และย้ำเตือนถึงความสำคัญของการเลือกบริโภคอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ทางเพจจึงได้นำรายละเอียดของเคสดังกล่าวมาเปิดเผย โดยมีข้อมูลดังนี้
หญิงอายุ 39 ปีที่เคยมีสุขภาพแข็งแรง เข้ารับการรักษาที่แผนกฉุกเฉินเนื่องจากมีอาการปวดแสบยอดอกและคลื่นไส้มาเป็นเวลา 2 วัน อาการแย่ลงเรื่อย ๆ และมีอาการท้องเสียตลอดช่วงที่ป่วย ผู้ป่วยระบุว่าปวดแบบแสบร้อนโดยไม่มีการกระจายของอาการ และมักเป็นมากขึ้นหลังรับประทานอาหาร
สัญญาณชีพของผู้ป่วยอยู่ในเกณฑ์ปกติ และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบความผิดปกติ การตรวจร่างกายทางช่องท้องพบความกดเจ็บทั่วไป โดยเฉพาะบริเวณลิ้นปี่ และมีอาการ abdominal rebound ทุก quadrant แต่ไม่มีอาการแข็งเกร็งของช่องท้อง
การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ช่องท้องพบผนังกระเพาะอาหารหนาตัวขึ้นอย่างชัดเจนถึง 2 เซนติเมตร มีบางส่วนของลำไส้เล็กที่หนาตัว และพบของเหลวปริมาณเล็กน้อยถึงปานกลางในช่องท้อง
แพทย์ให้ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยมีการวินิจฉัยแยกโรคเบื้องต้น ได้แก่ โรคกระเพาะอักเสบจากการติดเชื้อที่ไม่ปกติ, โรคกระเพาะอักเสบชนิดหนาตัวและมะเร็งทางเดินอาหาร

การส่องกล้องตรวจระบบทางเดินอาหารส่วนต้น (esophagogastroduodenoscopy; EGD) พบเยื่อบุกระเพาะอาหารมีรอยแดง (erythematous gastritis) เยื่อบุลำไส้เล็กส่วนต้นอักเสบ (erythematous duodenopathy) และพบพยาธิจำนวนหลายตัวภายในกระเพาะอาหาร แพทย์ได้นำพยาธิออก 2 ตัว และภายหลังได้รับการระบุชนิดว่าเป็น Anisakis spp.
ผู้ป่วยได้รับการรักษาและกลับบ้านหลังรับการรักษา 2 วัน โดยมีอาการดีขึ้นและสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ

จากการสอบถามประวัติเพิ่มเติมพบว่าผู้ป่วยรายนี้รับประทานซูชิเป็นประจำ ซึ่งคาดว่าเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อ Anisakis มนุษย์ไม่ใช่โฮสต์ตามธรรมชาติของพยาธินี้ และโดยปกติแล้วพยาธิจะผ่านทางเดินอาหารออกไปภายในไม่กี่วัน
โดยทั่วไป การนำพยาธิออกโดยตรง (physical removal) ถือเป็นการรักษาที่เพียงพอ เช่นเดียวกับในกรณีของผู้ป่วยรายนี้ อย่างไรก็ตาม หากพยาธิเข้าสู่ลำไส้ omentum ตับอ่อน หรือก่อให้เกิดฝี (abscess) จนทำให้เกิดการอุดตันของลำไส้ อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด

โรค Anisakiasis เป็นโรคที่เกิดจากพยาธิตัวกลมกลุ่ม Ascaridoid ที่สามารถเข้าสู่ทางเดินอาหารของมนุษย์ได้ โดยปกติโรคนี้ติดต่อผ่านการบริโภคตัวอ่อนของพยาธิที่พบในปลาดิบ
ปัจจุบันนี้ จากการทบทวนฐานข้อมูลพบว่า ประเทศญี่ปุ่นมีรายงานผู้ป่วยประมาณ 7,000 ถึง 20,000 รายต่อปี เชื่อว่าอัตราการเกิดโรคที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้ เนื่องจากโรคอาจมีอาการไม่รุนแรงและสามารถหายได้เอง ทำให้หลายคนไม่ได้เข้ารับการรักษาทางการแพทย์
อัตราการเกิดโรค anisakiasis ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคอาหารดิบ โดยพบมากในประเทศที่นิยมกินปลาดิบ เช่น ญี่ปุ่น (0.5–2 ต่อ 100,000 คนต่อปี) เกาหลีใต้ และสเปน ในยุโรปและอเมริกาพบได้น้อยแต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการบริโภคซูชิและอาหารทะเลดิบ
การติดเชื้อมักเกิดจากการกินปลาทะเลที่มีตัวอ่อน Anisakis และพบได้บ่อยในปลาดิบหรือปลาที่ปรุงไม่สุก
ในประเทศไทย anisakiasis พบได้น้อยกว่าประเทศที่นิยมบริโภคปลาดิบ อย่างไรก็ตาม อัตราการเกิดโรคอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากความนิยมในการกินซูชิ ซาซิมิ และอาหารทะเลดิบมากขึ้น
แม้ว่าไทยจะไม่มีข้อมูลอัตราการเกิดที่ชัดเจน แต่มีรายงานการติดเชื้อจากผู้ที่บริโภคปลาทะเลดิบ เช่น ปลาหมึก ปลากะพง และปลาโอ โดยเฉพาะในกลุ่มที่นิยมอาหารทะเลสดจากตลาดหรือร้านอาหารที่ไม่ได้ผ่านการแช่แข็งที่อุณหภูมิต่ำเพียงพอที่จะฆ่าตัวอ่อน Anisakis
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สูงวัยต้องอ่าน หมอเปิดลิสต์ 10 อาหารโปรตีน “ลิวซีน” สูง สำคัญต่อสุขภาพ
- ชะล่าใจ ฉี่เป็นเลือด 1 ปี หมอช็อก เจอมะเร็งก้อนใหญ่ เหตุทำสิ่งนี้ตอนวัยรุ่น
- นักโภชนาการญี่ปุ่น เตือนมื้อเย็น กิน 2 อย่างนี้มากไป เสี่ยงไขมันพอกตับ
อ้างอิง: เอฟเอ็มซีคลินิกเวชกรรม