จตุพร ชี้ บิ๊กป้อม ไฮไลท์ศึกซักฟอก ชอบพูดไม่รู้ หนนี้จ่อคลายข้อมูลลับ

จตุพร พรหมพันธุ์ ชี้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร ไม่รู้ๆ หนนี้จ่อลุกอภิปรายกลางรัฐสภาครั้งแรกในชีวิต คอการเมืองอดีคคนเสื้อแดงลั่นเสียงแข็ง จับตาประเด็นที่ประชาชนไม่ทราบมาก่อน อาจได้รู้แน่ เทียบปลายทางประชุมสภา ผลลัพธ์ออกหน้าไหนอาจไม่ต่างกรณีอดีตนายกผู้ล่วงลับ บรรหาร ศิลปะอาชา ที่สุดท้ายประกาศยุบสภา
กำลังเข้มข้นและเป็นที่จับตากรณีร้อน ๆ การขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในแวดวงการเมืองในช่วงเดือนมีนาคมนี้ หลังจากที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร
ความน่าสนใจของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือ “การซักฟอกรัฐบาล” ในครั้งนี้ คือ เป็นครั้งแรกของรัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะต้องผ่านกลไกการตรวจสอบจากสภาผู้แทนราษฎร และเป็นการขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ก่อนจะตัดสินด้วยการลงมติว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ในฝ่ายบริหารต่อไปหรือไม่
ล่าสุด จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็น ‘นักวิเคราะห์การเมือง’ กล่าวกับไทยพีบีเอส ถึงสิ่งที่วิเคราะห์แล้วเกี่ยวกับปลายทางการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แม้กรอบเวลากระชั้นชิดก็ตาม เนื่องจากเป็นกระบวนการสภาผู้แทนราษฎรซึ่งต้องตรวจสอบรัฐบาล ฉะนั้นเมื่อตกลงกันได้แล้วยื่นให้ประธานสภาบรรจตุระเบียบวาระซึ่งจะเป็นขั้นตอนถัดไป
ส่วนการเจรจาวิปทั้ง 3 ฝ่าย เป็นเรื่องปกติที่จะมีการยื้อหรือต่อรอง นายกรัฐมนตรีจะอยู่ในบริบทไม่ติดขัดอภิปรายกี่วัน-กี่ชั่วโมงได้หมด แต่วิปรัฐบาล-วิปในส่วนของครม.ทราบดีต้องจำกัดวันให้น้อยที่สุด เนื่องจากทราบดีนายกฯ ไม่ชำนาญการตอบโต้ข้อกล่าวหาพรรคฝ่ายค้าน
ขณะที่ฝั่งของฝ่ายค้านเมื่อปรับเรื่องเอาชื่อนายทักษิณ ชินวัตร บิดาของนายกฯ ออกจากประเด็นอภิปราย พร้อมกับชี้แจงถึงมีความประสงค์ที่จะอภิปราย 30 ชม. โดยนายจตุพรมองว่าท้ายที่สุดจะได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจกันเกิดขึ้น เพราะสภา คือ ช่องทางของการอภิปราย
ถ้าไม่เช่นนั้นคนย่อมหันเหกันไปที่นอกสภา ตราบใดเมื่อยังมีสภากันอยู่นั้น ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว รัฐบาลจึงต้องทำหน้าที่ชี้แจง ถ้ามั่นใจสื่อสัตย์สุจริตจริงก็ไม่มีอะไรต้องน่าวิตก
เมื่อถามว่าสังเกตแล้วมีประเด็นอะไรที่ฝ่ายค้านมีข้อมูลทำให้รัฐบาลกังวลจึงต้องดึงเกมปัญหาแบบนี้ ตกลงปัญหาจริงๆ อยู่ที่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาลกันแน่?

นายจตุรย้ำมุมนี้ดูดีๆ จะเห็นการชักคะเย้อกันของ 2 ฝ่าย แต่ทุกคนทราบดีเรื่องกรอบเวลามีพระราชกฏษฎีกาปิดสมัยประชุมในวันที่ 11 เมษายน 2568 ฉะนั้นเมื่อยื่นญัติไป ประธานสภายืนกรานให้ตัดชื่อนายทักษิณ แล้วกำหนดวันเดดไลน์กัน ท้ายที่สุดฝ่ายค้านต้องยืนเต็มกันไปก่อนเนื่องจาก อยู่ดีๆ ไปถอดชื่อง่ายดายยิ่งทำลายน้ำหนักตัวเอง แต่พอได้จังหวะเขาก็ตัดสินใจถอดชื่ออกมา
อย่างไรก็ตามความสนใจประชาชน คอการเมืองรุ่นใหญ่ชี้ว่าได้ถูกเรียกให้ไปสนใจการอภิปรายไม้ไว้วางใจไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเนื้อหาสาระตนเชื่อว่าพรรคประชาชนจัดเต็มอยู่แอแล้ว ขณะที่ไทยสร้างไทยซึ่งลูกพรรคที่เหลือจากการการถูกดูดก็เตรียมตัวอภิปราย
ส่วน “เสรีรวมไทย” ถ้า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องการให้ลูกพรรคอภิปรายก็สามารถทำได้ แต่ไฮไลท์หลักๆ นั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ ย้ำชัดเจว่าอยู่ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.แบบบัญชีรายชื่อและ “หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ”
นายจตุพรชี้ชัดถึง พล.อ.ประวิตร หรือ “บิ๊กป้อม” ที่หลายคนชินคำพูดติดปาก “พูดไม่รู้ๆ ไม่รู้” แต่ทุกคนทราบดี พล.อ.ประวิตรอยู่ในวงการชั้นในทางการเมืองที่สุดกว่า 20 ปีนี้ หลากหลายเรื่องราวที่ประชาชนไม่รู้ พลเอกประวิตรรู้ ! และเกี่ยวข้องกับเรื่องความไม่ไว้วางใจ ไฮไลท์หลักๆ จะกี่นาทีก็ตามจะอยู่ที่ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์” อย่างแน่นอน ที่เหลืออีก 3 พรรคจัดเต็ม 100% สังเหตุจากท่วงทำนองที่ขยับกัน
ส่วนคาดหวังจะเห็นหมัดเด็ดอะไร ? จากลุงป้อมจะสั่นสะเทือนรัฐบาลได้มากน้อยแค่ไหนนั้น
อีกฝ่ายตอบผ่านโฟนอินโดยตนเองเชื่อว่าลุงป้อมซึ่งไม่เคยอภิปรายไว้ไว้วางใจมาก่อน และนี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ทำให้น่าจับตาเรื่องที่พูดต้องเป็นที่คนทั่วไปไม่มีการรับรู้กันมาก่อน ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังยึดอำนาจ การเจรจาอะไรต่างๆ ก่อนกลับบ้าน-หลังกลับบ้าน แม้กระทั่งบางเรื่อง กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่คนไทยยังไม่รู้

ทั้งนี้มุมการอภิปรายของพรรคประชาชน นายจตุพรแม้มั่นใจว่าต้องจัดเต็มในแต่ละเรื่องราว แต่เน้นย้ำสิ่งสำคัญที่สุดต้องล็อกเป้าที่ตัวนายกรัฐนตรี แพทองธาร ชินวัตรและบิดาของนายกรัฐมนตรี อย่าไปแตกประเด็นคนอื่น ๆ เพราะอาจทำให้เสียเวลาใช้สิทธิลุกขึ้นประท้วงพาดพิงโดยไม่จำเป็น
ตอนท้ายจตุรพรยกตัวอย่างเปรียบเทียบโดยทำนายปลายทางของการอภิปรายหนนี้ที่หลายคนลุ้นจะคลายข้อมูลลับที่ไม่มีคนรู้มากน้อยแค่ไหน “เวิร์สเคสซินาริโอ” จะไม่ต่างกับตอนที่อดีตนายกฯ ผู้ล่วงลับ นายบรรหาร ศิลปะอาชา ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ปรากฏการณืสุดท้ายขิอองเรื่องนี้คือ “ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร” เมื่อ 27 ก.ย. 2539 โดยมีการมองช่วงแรกพรรคร่วมจำเป็นต้องแสดงความเป็นเอกภาพให้เห็นก่อน แต่ว่าพออภิปรายจบ หลังจากตัวแทนของฝ่ายค้านสรุปอภิปรายจบนั้น สังคมและประชนไม่สามารถรับการบริหารของนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ แกนนำพรรคร่วมไปพบนายบรรหาร เจรจาให้มีการลาออก โดยกำหนดวันแลกกับเสียงไว้วางใจ ท้ายที่สุดนายบรรหารรับปากกระทั่งได้รับความไว้ววางใจต่อมา แล้วมาหักอีกทีหนึ่งด้วยการ “ยุบสภา”
นายจตุรพร กล่าวว่า ครั้งนี้ถ้า “อุ๊งอิ๊งค์” ถูกข้อกล่าวหาแล้วไม่สามารถชี้แจงได้ อาการเชื่อว่าไม่ต่างกันกับกรณีอดีตนายกฯ บรรหาร แต่ที่น่าสนใจ คือ ปรากฏการณ์ภายนอกเช่นว่า วันที่อภิิปรายเนี่ยหุ้นจะต่ำกว่าพันไหม ราคาข้าว-ราคาผลผลิตทางการเกษตร เป็นอย่างไร
“เรื่องของคุณทักษิณ แพทย์สภา? ผลจะออกก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางจไหม ศาลฏีกาจะมีการประชุมใหญ่ก่อนไหม หลากหลายเรื่องก็จะเป็นปัจจัยทางการเมืองที่มีผลต่อกรเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น” จตุรพร พรหมพันธุ์ วิเคราะห์มุมการเมืองก่อน “ศึกซักฟอกใหญ่” ประจำปีนี้ เมื่อ 14 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา.
ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เคยลงเนื้อหาเมื่อ 27 ก.ย.2564 ครบรอบ 25ปี “บรรหารยุบสภา” โดยย้อนเหตุการณ์สุดเซอร์ไพรส์ทางการเมือง การยุบสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 27 ก.ย. 2539 นับเป็นอีกฉากเกมการเมืองสำคัญของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ ซึ่ง ณ ตอนนั้นพรรคร่วมรัฐบาลต่างกดดันให้นายบรรหาร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อผลักดันพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ เป็นนายกรัฐมนตรีแทน
สุดท้าย “นายบรรหาร” แก้เกมด้วยการประกาศยุบสภาแทนโดยที่ไม่มีใครทราบล่วงหน้า.

อภิปรายไม่ไว้วางใจ 2568 วันไหน-เมื่อไหร่ ?
อัปเดตข้อมูลล่าสุด ภายหลังจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเชิญ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคปชน.ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรหารือในประเด็นเกี่ยวกับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังส่งหนังสือขอให้ฝ่ายค้านแก้ไขญัตตินำชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากญัตติ
โดยสรุปฝ่ายค้านยอมที่จะไม่ใส่ชื่อ “ทักษิณ” แล้ว แต่จะระบุคำว่า “พ่อ” เท่านั้น และจะขอเวลาอภิปราย 2 วัน หากตกลงกันได้ วิป 3 ฝ่าย
ส่วนกระแสฝ่ายค้านจะตัดชื่อนายทักษิณออก โดยใช้คำว่า “พ่อ” แทนและขอเวลาอภิปราย 2 วันนั้น นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ระบุไม่น่าจะมีปัญหาและมีความเป็นไปได้ โดยฝ่ายรัฐบาลกำหนดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะจัดให้มีขึ้นในวันจันทร์ที่ 24 มีนาคมนี้ หากวิป 3 ฝ่ายตกลงเรื่องวันการอภิปรายฯ กันได้ว่าเป็นสองวัน การอภิปรายนายกรัฐมนตรีน่าจะมีขึ้นในวันที่ 24-25 มี.ค. หรือไม่ก็ 25-26 มี.ค.68 ตามลำดับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับวิป 3 ฝ่ายจะหารือกัน คาดว่าช่วงบ่ายวันนี้น่าจะได้ข้อสรุป.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- จตุพร ฝากถึง ทักษิณ 18 ปีลงใต้ อย่าลืมไปขอโทษคนกรือเซะ-ตากใบ อย่างจริงใจ
- เพื่อไทย เหน็บ บิ๊กป้อม” 4 ปี เห็นลุกอภิปรายแค่ 2 วินาที ห่วงยืนเป็นชั่วโมง
- บิ๊กป้อม เซ็นเด้ง กาญจนา พ้นรองเลขา พปชร. เหตุร่วมทำบุญพรรคกล้าธรรม
- ประวิตร จัดเต็ม นำทัพลุยอภิปราย นายกอิ๊งค์ เอง ส่องประเด็นซักฟอก