ข่าวอาชญากรรม

อย่าให้ ‘น้องไอ’ ตายฟรี ชายจีนบังคับเสพยา หนีออกนอกประเทศแล้ว

เศร้าสลด “ไอรดา” สาวรับงานเอนฯ ดับปริศนาในโรงแรม พบสาร “แฮปปี้วอเตอร์” มรณะ หนุ่มจีน จ้างงานหนีออกนอกประเทศแล้ว

คืบหน้าคดีการเสียชีวิตสลด นางสาวไอรดา ภายในโรงแรมย่านโยธินพัฒนา เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากกรณีรับงานเอนเตอร์เทน ลูกค้าชาวจีน จนต่อมาเพจอีซ้อขยี้ข่าว เปิดประเด็นแฉว่า โดนลูกค้าชาวจีนบังคับเสพยาจนถึงแก่ความตาย โดยในที่เกิดเหตุพบยาเสพติด “แฮปปี้วอเตอร์” ซึ่งเป็นสารอันตรายที่กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มนักเที่ยวชาวจีน

Advertisements

ล่าสุด รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ ได้ออกมาให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสารเสพติด “แฮปปี้วอเตอร์” ว่าไม่ใช่สารเสพติดธรรมดา แต่เป็นการรวมตัวของสารอันตรายถึง 8 ชนิด ทั้งสารกดประสาท 4 ชนิด และสารกระตุ้นประสาทอีก 4 ชนิด ที่สำคัญคือมักจะมียาเสียสาวผสมอยู่ด้วย ความร้ายแรงของ “แฮปปี้วอเตอร์” ยิ่งทวีคูณเมื่อเสพร่วมกับแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะเร่งให้สารเสพติดเข้าสู่กระแสเลือดเร็วขึ้น นำไปสู่ภาวะระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ซึ่งสอดคล้องกับผลชันสูตรเบื้องต้นที่ระบุถึงสาเหตุการเสียชีวิตของน้องไอรดา

ภาพจากกล้องวงจรปิดสุดท้ายของน้องไอ

ขณะที่การสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามตัวชายชาวจีน ลูกค้าที่ว่าจ้างน้องไอรดา รวมถึงเรียกตัว “อลิน” โมเดลลิ่ง ผู้จัดหาสาวเอนเตอร์เทนมาสอบสวน เพื่อขยายผลหาความเชื่อมโยงกับยาเสพติดและการเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของน้องไอรดายังไม่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ เนื่องจากต้องรอผลตรวจเลือดทางนิติเวชอย่างเป็นทางการ ขณะที่ญาติและครอบครัว ยืนยันว่าน้องไอรดาไม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำให้เกิดความเป็นไปได้ว่า น้องอาจถูกบังคับให้เสพยา หรือได้รับยาเกินขนาดจนช็อกและเสียชีวิต

เพจบิ๊กเกรียนเผยว่า คนจีน หนีออกทางช่องทางธรรมชาติ
เพจบิ๊กเกรียนเผยว่า คนจีน หนีออกทางช่องทางธรรมชาติ

อีกประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมคือ กรณีที่ตำรวจเข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเยียวยากับญาติผู้เสียชีวิต จนถูกมองว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ต้องหา พล.ต.ต.วิชัย สังค์ประไพ อดีตรอง ผบช.น. ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า มีทั้งมุมที่ดีคือการเป็นคนกลางเจรจาค่าเสียหาย และมุมที่ไม่ดีคือการถูกมองว่าช่วยเหลือผู้กระทำผิด โดยอ้างว่าผู้เสียชีวิตอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งประเด็นนี้จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่าตำรวจมีความผิดจริง ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 157

Advertisements

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (17 กุมภาพันธ์) มีรายงานว่า หนุ่มจีนหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ด้วยวิธีไหนยังไม่มีระบุเพิ่ม แต่ทางตำรวจยืนยันว่าไม่ได้ทำงานล่าช้า อ้างว่าการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต้องใช้เวลา ขณะเดียวกันก็ได้ประสานข้อมูลไปยังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อเฝ้าระวังและห้ามชายชาวจีนรายนี้เดินทางออกนอกประเทศ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button