สุขภาพและการแพทย์

5 อาหารเสริม กินมากไป เสี่ยงมะเร็ง นักโภชนาการแนะ กินอย่างไรไกลโรค

เช็กให้ชัวร์ 5 วิตามิน-อาหารเสริม ทานมากเกิน เสี่ยงมะเร็ง นักโภชนาการแนะวิธีทานที่ถูกต้อง ได้ประโยชร์ครบ แถมห่างไกลโรค เลี่ยงผลข้างเคียง

ใครว่าวิตามินและอาหารเสริมดีต่อสุขภาพเสมอไป หลายคนเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง แต่หารู้ไม่ว่าอาจกลายเป็นภัยเงียบที่เพิ่มความเสี่ยงโรคร้ายโดยไม่รู้ตัว โดย ‘นิโคล แอนดรูว์ส’ (Nichole Andrews) นักโภชนาการจากสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเตือน ผู้ที่ทานวิตามินยอดฮิตที่เพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งได้

Advertisements

แอนดรูว์สเป็นห่วงบุคคลที่อาหารเสริม 5 ชนิดที่แฝงอันตรายไว้ ได้แก่ คอลลาเจน, กัมมี่บำรุงผิว ผม และเล็บ, ขมิ้นชัน รวมทั้งวิตามินซี ซึ่งหลายคนอาจไม่ทราบว่าการทานอาหารเสริมเหล่านี้เข้าไปในปริมาณที่มากเกิน อาจทำให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์

เช็กลิสต์ 5 อาหารเสริม ที่ไม่จำเป็น แถมเสี่ยงโรคร้าย

1. แอปเปิลไซเดอร์แบบเม็ด

หลายคนเชื่อว่า ‘แอปเปิลไซเดอร์แบบเม็ด’ จะช่วยลดน้ำหนักและควบคุมความดันเลือด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังไม่มีผลวิจัยมาสนับสนุนข้อมูลนี้ โดยวิตามินเสริมชนิดนี้อาจทำให้ระบบย่อยอาหารระคายเคือง และทำลายสารเคลือบฟัน เนื่องจากมีความเป็นกรดสูง

แอนดรูว์สแนะนำให้เลี่ยงการทานน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ลแบบเม็ด แล้วดื่มน้ำมะนาว หรือกินอาหารหมักดอง เช่น กิมจิ หรือเซาเออร์เคราท์แทน ซึ่งจะช่วยในการย่อยอาหาร

แอปเปิลไซเดอร์แบบเม็ดอาจทำให้ระบบย่อยอาหารระคายเคือง

Advertisements

2. คอลลาเจน

สำหรับ ‘คอลลาเจน’ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อผิวหนังและข้อต่อ แต่ร่างกายของมนุษย์สามารถดูดซึมคอลลาเจนได้เอง จากอาหารที่รับประทานเข้าไป ฉะนั้นจึงแนะนำให้กิน ไก่ ปลา ไข่ ผลไม้ตระกูลส้ม และเบอร์รี่ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซี แทนการกินคอลลาเจนเสริม เพราะการกินอาหารเสริมมากเกินไป อาจขัดขวางการดูดซึมสารอาหารได้

นักโภชนาการแนะนำทานคอลลาเจนได้ประโยชน์มากกว่าผลไม้ตระกูลส้ม

3. ไบโอติน (วิตามิน B7)

ส่วน ‘ไบโอติน’ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ วิตามิน B7 มักพบมากในไข่และกล้วย ในโฆษณาของอาหารเสริมมักจะนำเสนอว่าช่วยในการบำรุงผมและเล็บ แต่แอนดรูว์สไม่แนะนำให้กินเสริม กัมมี่บำรุงผิว ผม และเล็บ เพราะมีปริมาณไบโอตินมากเกิน หากรับประทานเข้าไปอาจส่งผลต่อการผลิตเลือดได้

นักโภชนาการจึงแนะนำให้กินไข่ ถั่ว ผักใบเขียว อะโวคาโด และมันเทศ เพื่อปรับสมดุลวิตามินในร่างกาย

วิตามินบี 7 พบได้มากในไข่และกล้วย

4. ขมิ้นชัน

อาหารอันดับที่ 4 คือ ‘ขมิ้นชัน’ ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาลำไส้ ต้านการอักเสบ และบรรเทาอาการปวด แต่การบริโภคขมิ้นชันมากเกินไปอาจทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารระคายเคือง และส่งผลต่อการทำงานของตับได้ ฉะนั้นแนะนำให้ทานขมิ้นชันเป็นส่วนหนึ่งมื้ออาหารแทน

การทานขมิ้นชันในปริมาณมากอาจทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารระคายเคือง

5. วิตามินซี

วิตามินเสริมชนิดสุดท้าย ได้แก่ ‘วิตามินซี’ พบมากในส้ม และพริกหยวก โดยแอนดรูว์สเตือนว่าไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดนิ่วในไต ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และขัดขวางการดูดซึมสารอาหารได้ ดังนั้นนักโภชนาการจึงแนะนำให้เพิ่มวิตามินซีด้วยการทานผักและผลไม้แทน เช่น ส้ม สตรอเบอร์รี่ พริกหยวก และบร็อคโคลี่

การทานส้มมากเกินไป เสี่ยงการเกิดนิ่วในไต

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาล่าสุดในปี 2023 จากวารสาร Journal of Clinical Investigation พบว่า สารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีและอี อาจเป็นตัวเร่งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยการทดลองในหนูทดลองพบว่า วิตามินทั้งสองชนิดกระตุ้นโปรตีนที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงก้อนมะเร็งส่งผลให้เซลล์มะเร็งเติบโต

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button