เสี่ยวเจิ้น พิธีกรสาวไต้หวัน เผยสูตรลดน้ำหนัก 50 กก. ด้วยกฎมื้อเย็น แบ่งปันเคล็ดลับดูแลตัวเองจนเปลี่ยนชีวิต ผู้ชมตะลึงกับร่างใหม่สุดปัง
เอ็มซี เสี่ยวเจียน (MC Xiao Zhen) หรือที่รู้จักกันในชื่อ หู หยิงเจิน (Hu Yingzhen) เกิดในปี 1984 ชื่อภาษาอังกฤษ คาเรน หู (Karen Hu) เป็นนางแบบ นักแสดง และพิธีกรที่มีชื่อเสียงในไต้หวัน วัย 39 ปี ได้สร้างกระแสฮือฮาในวงการสุขภาพและไลฟ์สไตล์ หลังเปิดเผยเส้นทางการลดน้ำหนักที่ทำให้เธอเปลี่ยนจากน้ำหนักตัว 105 กิโลกรัม เหลือเพียง 55 กิโลกรัม ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี โดยเธอใช้แนวทางที่เรียกว่า “กฎมื้อเย็น” ซึ่งทำให้เธอลดน้ำหนักได้ถึงครึ่งหนึ่งของน้ำหนักตัวเดิม พร้อมเผยเคล็ดลับแบบไม่มีกั๊กให้ผู้ที่สนใจนำไปปรับใช้
เส้นทางการลดน้ำหนักของเสี่ยวเจิ้นเริ่มต้นในช่วงปลายปี 2017 หลังจากเธอต้องเผชิญปัญหาสุขภาพหลายด้าน เช่น โรคถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) ส่งผลให้มีภาวะน้ำหนักเกิน หรืออ้วน และยังมีอาการหมอนรองกระดูกเคลื่อน ที่ทำให้การเคลื่อนไหวลำบากจนต้องพึ่งพาครอบครัวในหลาย ๆ เรื่อง เหตุการณ์นี้จุดประกายให้เธอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง
เคล็ดลับ “กฎมื้อเย็น” วิธีดูแลตัวเอง
เสี่ยวเจิ้นเผยว่า 90% ของความสำเร็จมาจากการควบคุมอาหาร และอีก 10% มาจากการออกกำลังกาย โดยจุดเปลี่ยนสำคัญคือการปรับเวลาทานมื้อเย็นให้เร็วขึ้น พร้อมเปลี่ยนประเภทอาหารที่บริโภค เธอเลือกทานผักและผลไม้สดในปริมาณมาก รวมถึงแหล่งโปรตีนไขมันต่ำ เช่น อกไก่และปลา ขณะที่แป้งถูกลดปริมาณให้น้อยที่สุดในมื้อสุดท้ายของวัน
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ตัดแป้งออกจากชีวิตทั้งหมด แต่เลือกทานข้าวกล้องหรือธัญพืชในปริมาณเหมาะสมในมื้อกลางวันหรือหลังการออกกำลังกาย 30 นาที นอกจากนี้ เธอหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเลือกดื่มนมถั่วเหลืองไม่ใส่น้ำตาลในตอนกลางคืนหากรู้สึกหิว
เสี่ยวเจิ้นยังแนะนำวิธีที่เรียบง่ายแต่ได้ผลดีอย่างการ เคี้ยวให้ละเอียด ซึ่งช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารได้ดีขึ้น ลดอาการท้องอืด และทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น โดยเธอจัดลำดับการทานอาหารในแต่ละมื้อเริ่มจากอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผักสดหรือสลัด ตามด้วยโปรตีน และจบด้วยอาหารประเภทแป้งในปริมาณน้อยที่สุด
แม้จะอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก เสี่ยวเจิ้นยังคงมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงและร่วมทานอาหารนอกบ้านตามปกติ แต่เธอเลือกเมนูอาหารอย่างชาญฉลาด เช่น หากต้องเลือกระหว่างอาหารทอดและอาหารตุ๋น เธอจะเลือกอาหารทอด เนื่องจากสามารถเลาะส่วนเปลือกกรอบที่มีแคลอรีสูงออกได้ ในขณะที่อาหารตุ๋นหรือเคี่ยวมักดูดซึมน้ำมันและซอส ทำให้มีพลังงานสูงกว่า
แรงบันดาลใจที่เปลี่ยนชีวิต
ก่อนเริ่มเส้นทางการลดน้ำหนัก เสี่ยวเจิ้นเคยน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัมและมีไขมันในร่างกายสูงถึง 41% แต่หลังจากปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ อัตราไขมันในร่างกายของเธอลดลงเหลือเพียง 19.7% ภายในไม่กี่ปี การลดน้ำหนักไม่เพียงช่วยให้เธอมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ยังเพิ่มความมั่นใจและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนจำนวนมาก
ทั้งนี้ เสี่ยวเจิ้นเป็นตัวอย่างของคนที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และพิสูจน์ว่าความตั้งใจจริงและวินัยสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ เรื่องราวของเธอไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจในด้านสุขภาพ แต่ยังแสดงให้เห็นว่าการดูแลตัวเองคือกุญแจสำคัญสู่ชีวิตที่มีคุณภาพและความสุข
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กินข้าวน้อยเกินไป สุขภาพพัง กินมากก็อ้วน แนะกินวันละเท่าไหร่ ถึงเหมาะสม
- น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล อันตรายกว่าที่คิด คนเข้าใจผิด กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน
- บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กินดิบ VS ต้มสุก อะไรทำร้ายไตมากกว่ากัน
อ้างอิง: phapluat.suckhoedoisong.vn
ข่าวล่าสุด
