อัจฉริยะ เปิดแผล กฤษอนงค์ สาวไส้สามีตำรวจ โยงกลไก สคบ. คุมขายตรงปี 61
อัจฉริยะ แฉ กฤษอนงค์ สาวไส้กลไกสคบ. คุมธุรกิจไปจนออกใบอนุญาตขายตรงปี 61 ทำกันแบบมีพิรุธจนแจ้งเกิดนักร้องเรียนหญิงตบทรัพย์ 20 ล้าน เรืองอำนาจช่วงปี 58 ก่อนลากยาวมาคดีดิไอคอน อ้างชื่อรัฐมนตรีได้ สารตั้งต้นสามีปคบ. เล่นบทไล่จับผู้ประกอบการ
ตอนนี้กระบวนการขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติม โดยมีคดี “ฉ้อโกงประชาชน” ของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปของบอสพอลวรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นสารตั้งต้นสาวไส้ความส่อฉ้อฉลมาถึงก๊วนนักร้องเรียนตบทรัพย์ ไฟลามทุ่งไปจนอ้างชื่อรัฐมนตรีในสำนักนายกฯ ต้องบอกกันตามตรงว่าให้จับตากันชนิดนาทีต่อนาที
โดยเฉพาะกรณีของกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ “เจ๊พัช” ผู้ก่อตั้งองค์การต่อต้านแชร์ลูกโซ่ไปจนประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ทำท่าจะมีคดีความซึ่งร้อนถึง บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียนรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) ออกมาสื่อเป็นนัยเมื่อช่วงสาย (15 พ.ย.) ระบุว่าคืนนี้อาจมีคนต้องอดลอยกระทงเพราะส่อได้หมายจับ
ล่าสุด อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ในฐานะประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไม่พลาดจะนำหลักฐานสด ๆ ร้อน ๆ ที่มีในมือมาเล่าในรายการข่าวช่องดังของพีพีทีวี โดยหลักใหญ่ใจความคือการพาดพิงแรงถึง พัช กฤษอนงค์ ขุดคุ้ยวีรกรรมเก่าก่อนที่ร่วมมือกับสามีคนวงการสีกากี ฟันเหยื่อผู้ประกอบการธุรกิจขายตรงแบบทั้งขึ้นทั้งล่อง อีกทั้งยังสาวไส้ขบวนการสีเทาใน “สคบ.” ยุคเก่าปี 61 ที่กินใต้โต๊ะเอื้อรับผลประโยชน์กันแบบบลับ ๆ
อัจฉริยะ กล่าวว่า จุดสำคัญที่ต้องมาตรวจสอบคือทำไม “กฤษอนงค์” ถึงทำพฤติกรรมเข้าข่ายตบทรัพย์ตามที่มีข่าวแบบนี้มาได้จนถึงปัจจุบัน ดังนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องย้อนไปดูที่กระบวนการ และหัวใจสำคัญของเรื่องนี้ คือ สคบ. โดยอัจฉิรยะยกข้อเท็จจริงแรกมาอ้างว่า ตั้งแต่อีตถึงปัจจุบันไม่เคยมีใครถอนใบอนุญาติของดิไอคอนเลย ถึงแม้ดีเอสไอแจ้งข้อหาผิดพ.ร.บ.ขายตรงฯ
ต่อมากฤษอนงค์มาเรืองอำนาจตั้งแต่ปี 2558 กับสามีที่เป็นรองผู้กำกับสอบสวนปคบ. แล้วมี “เจ้าหน้าที่สคบ.” รับส่วยรายเดือนจากฤษอนงค์ ในการรับส่วนซื้อขายใบอนุญาตจากสคบ. ใช้วิธีการกลั่นแกล้งผู้ประกอบการตลาดแบบตรงหรือขายตรงที่ไม่มีใบอนุญาตก่อน โดยการให้คนไปชี้เป้าบริษัทของนาย ก. หรือนาย ข. ไม่มีใบอนุญาตฯ แล้วให้ตำรวจไปจับซึ่งกรณีนี้คนที่จับ นายอัจฉริยะอ้างว่าก็คือสามีของนักร้องเรียนสาวเอง
และมาถึงขั้นตอนตบทรัพย์ที่ไม่แน่ใจว่าจะใช่แนวทางหรือแผนงานใด ๆ หรือไม่ นายอัจฉริยะเล่าต่อว่า พอผู้ประกอบการถูกจับกุมแล้วเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมาย กฤษอนงค์จะหาผู้เสียหายที่ไปซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการพวกนั้น อ้างว่าไม่ได้คุณภาพ ไม่มีใบอนุญาตอะไรต่าง ๆ ไปร้องเรียนเอาผิดผู้ประกอบการกับสคบ. กับที่ ปคบ. ตามสูตรของตัวเอง
ผู้ประกอบการไม่อยากมีปัญา สคบ.ก็ต้องใช้วิธีการคือ “ไกล่เกลี่ย” เปิดเจรจากัน ผู้เสียหายก็ได้เงินคืนจากผู้ประกอบการ
ส่วนกฤษอนงค์ก็จะได้ 20 เปอร์เซ็นต์จากผู้เสียหายและก็จะได้จากทางผู้ประกอบการ โดยเจ้าหน้าที่สคบ.จะได้เงินจากผู้ประกอบการในการปิดจ๊อบแต่เรื่องพวกนี้เป็นการมีนอกมีในกันมาตั้งแต่ในอดีต เป็นเหตุเก่าตอนราวปี 61
“ก็มีการไปแจ้งที่ปคบ.ด้วย พอไปร้องปคบ. สามีตัวเองกุมอำนาจสอบสวนในปคบ. ก็ต้องมีการเรียกผู้เสียหายมาร้อง จะอาอย่างไร สามีของตัวเองก็ให้ผู้ประกอบการ ได้ค่าปิดจ๊อบด้วยอีกเด้งหนึ่ง อันนี้คือกลไกของสคบ.ในอดีต”
ท้ายการพูดคุยนายอัจฉริยะยังอ้างถึงพยานที่ย้ำว่าตนเองมีหมด วานนี้ (14 พ.ย.) ก็ให้นักข่าวของช่องหนึ่งมาสัมภาษณ์ที่ สน. ชนะสงคราม เจอผู้เสียหายสูญ 10 กว่าล้านบาทเล่าใฟ้ฟังตอนโดนกลุ่มแก๊งพวกนี้ตบทรัพย์
“เมื่อก่อนนะ สคบ. กว่าจะให้ใบอนุญาตใช้เวลาเป็นปี แต่กลไกของสคบ. คือปล่อยให้ไปทำกิจการก่อน อ้างว่าอยู่ระหว่างขอใบอนุญาต ทีนี้เมื่อกฤษอนงค์มีคนในใต้สังกัดก็คือผู้ประกอบการขายตรงมาอยู่ภายใต้กฤษอนงค์ทั้งหมดเพราะไม่อยากถูกร้องเรียน อ้างสามารถเคลียร์กับ 1-2-3-4 ได้ โดยไม่ถูกคดี รูปแบบเดียวกับที่เคลียร์คดีดิไอคอน” นายอัจฉิรยะ ร่ายยาวพร้อมกับย้ำพฤติกรรมบุคคลที่ต้นเปิดโปงนั้น กระทำแบบนี้มาตั้งแต่ปี 2558-61 และเป็นตนที่ไปร้อง ปคบ. ให้ตั้งกรรมการสอบสามีอีกฝ่ายจนถูกสั่งย้าย
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องการออกหมายจับ “นักร้องเรียนหญิงนักตบ” อัจฉริยะมั่นใจน่าจะมีหมายฯ จากเจ้าหน้าที่ออกมาไม่เกินวันนี้
เพิ่มเติมข้อมูลจากเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เดิมที กฤษอนงค์เคยเปิดบริษัทเป็นธุรกิจขายตรง แต่ทำแล้วเจ๊ง ขึ้นโรงขึ้นศาล กระทั่งเวลาต่อมาได้เปิดบริษัทที่ปรึกษา ให้คำแนะนำให้บริการแก่บริษัทขายตรงทั้งหลาย ครั้งหนึ่งเคยบอกว่าต้องการกระชับสัมพันธ์กับลูกค้าบริษัทขายตรงที่มีอยู่จำนวนมากเพราะเคยตั้งวงแชร์ บ.ขายตรง และรู้จักกับบอสพอลตั้งแต่ยังเป็นพนักงานเจอเนสส์ก่อนขึ้นมาเป็นเจ้าของบริษัทดิไอคอน รู้จักกันมานานและบอสพอลเคยมาใช้บริการบริษัทที่ปรึกษาของเจ๊พัชหลายครั้ง
อ่านข่าวเพิ่มเติม