ฉาว รุ่นพี่วงการเสื้อวินเทจ ซ้อมรุ่นน้อง-ลากเมียท้อง 8 เดือนขึ้นรถ หวังขัดดอก
สะเทือนวงการเสื้อวินเทจ 2 ผัวเมียที่ชลบุรี ติดหนี้รุ่นพี่ขายเสื้อมือสองแสนกว่าบาท หาเงินจ่ายไม่ทันฝ่ายชายเจอซ้อมเลือดอาบ ก่อนปล่อยลงข้างทาง หดหู่หนักลากผู้หญิงขึ้นรถหวังขัดดอกทั้งที่ท้อง 8 เดือน เพจดังตามขุดหลังกระแสเบื้องหลังแบ๊คสีกากีใหญ่โรงพักบางแสน
จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจบ้าข่าวไปเรื่อย เปิดโปงพฤติกรรมฉาวของรุ่นพี่รายหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการคนเล่นเสื้อผ้าวินเทจ โดยไล่เรียงตั้งแต่ตอนก่อนเกิดเหตุที่มีการนัดหมายมาเคลียร์เรื่องของปัญหาหนี้สินที่อีกฝ่ายติดค้างไว้กว่าแสนบาท กระทั่งเกิดเหตุลงมือทำร้ายร่างกายไปจนกรณีสุดหดหู่ที่มีการบังคับข่มขู่แฟนสาวของผู้เสียหายกำลังตั้งท้อง 8 เดือนให้ขึ้นไปบนรถยนต์ เพื่อเป็นตัวประกันและหวังจะล่วงละเมิด
โดยข้อมูลแฉจากทั้ง 9 อีพีที่เพจนำมาลงไว้ พอจะสรุปคร่าว ๆ ได้ว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 20 ต.ค.ที่ผานมา รุ่นพี่นัดหมายรุ่นน้องมาเคลียร์หนี้สินที่ติดค้างกันไว้ แต่ปรากฏอีกฝ่ายไม่มีเงินมาชำระได้ทันเวลา ต่อมาจึงถูกทำร้ายเลือดอาบและมีการหักนิ้วพร้อมกับจับแฟนสาวคู่กรณีไปเป็นตัวประกัน ใช้กำลังบังคับนำตัวขึ้นไปบนรถเพื่อจะขอมีอะไรด้วยกับฝ่ายหญิงแถมยังขู่ผู้เสียหายทำนองไม่ให้กล้าแจ้งความ โดยอ้างว่ามีตำรวจรุ่นใหญ่เมืองชลฯ คอยหนุนหลัง
สุดท้ายเหยื่อที่ถูกไล่ให้ไปหาเงินมาเคลียร์หนี้ต้องหนีตายติดต่อหาครอบครัวที่บุรีรัมย์ช่วยหาเงินมาไถ่ตัวเมียที่กำลังท้องแก่ โดยถึงตอนนี้ทางเพจยังคงเป็นกระบอกเสียงให้ผู้เสียหายด้วยการออกมาแจ้งถึงใครที่มีข้อมูลรุ่นพี่คนดังกล่าว ติดต่อมาให้ข้อมูลทางอินบ็อกซ์ได้เลย
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรุ่นน้องชายที่เป็นผู้เสียหายล่าสุดออกมาโพสต์ถึงเหตุการณ์วันดังกล่าวแล้ว หลังจากเงียบหายไปเป็นเวลากว่า 2 วันนับตั้งแต่เกิดเรื่อง
ต่อมาประเด็นดังกล่าวมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โดยแท็กไปหาพ่อค้าเสื้อเก่ารายหนึ่งใต้โพสต์ว่า ชอบทำคลิป ให้ความรู้เรื่องเสื้อ อธิบายนั่นนี้ ถกเถียงประเด็นเสื้อ ละไม่คิดจะทำคลิปออกมาถกเถียงเรื่องนี้หน่อยหรอครับพี่ชาย น้องๆ ที่รักพี่ไปไหนหมดจั๊ฟ “อินทรี บ้านนอก”
ขณะที่อีกความเห็นระบุ ถ้าเรื่องจริงในวงการเสื้อผ้าวินเทจก็ควรปลดทั้งคนก่อเหตุและรุ่นน้องด้วย อย่าให้มีที่ยืนในวงการนี้ เพราะเคยมีประเด่นเรื่องเสื้อวงบางลายที่คนกลุ่มนี้ผลิตกันขึ้นมาเองและหลอกลูกค้าว่างานแท้ “เสื้ออะแท้ แต่งานสกรีนในไทย”.
อ่านข่าวเพิ่มเติม