แฉ “บอสพอล” จ่ายเทวดาตั้งแต่ปี 63 เกินพันล้าน ใกล้ชิดผู้ใหญ่ระดับบิ๊กในรัฐบาล
เอกสายไหม แท็กทีมทนายตั้มพร้อมก๊วนดีมทีมมือกฎหมาย สาวไส้บอสพอลบริษัทดิไอคอนใกล้ชิดผู้ใหญ่ระดับสูง จ่ายเทวดามาตั้งแต่ปี 63 รวมกว่าหมื่อนล้านเคลียร์ 4 หน่วยงาน สะกิด 3 บอส รีบสารภาพใครอยู่เบื้องหลัง
ทนายตั้ม ษิทรา กล่าวที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางวันนี้ (15 ต.ค.) หลังจากยกโขยงก๊วนทนายดังไปแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับบริษัท The icon group โดยยืนกรานแจ้งเอาผิดบอสทุกคนในความผิดตามพ.ร.ก. การกู้เงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ,ฉ้อโกงประชาชน ,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดฐานฟอกเงิน
ทนายตั้มกล่วว่าวันนี้ทีมทนายและสายไหมต้องรอดอาสาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งทุกคนยินดีที่จะมาช่วยเหลือ เพราะเกรงจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินคืน นอกจากนี้ยังโต้แย้งกระแสที่อ้างว่ามีกลุ่มทนายเรียกรับเงินจากบอสพอลเป็นรายเดือน นายษิทรายืนยันหลังจากได้สอบถามกับทนายความทุกคนที่เดินทางมาวันนี้ ไม่มีพฤติกรรมตามที่กล่าวอ้างก่อนจะเน้นย้ำไม่รับเคลียร์ทุกกรณี
ขณะเดียวกันประเด็นที่น่าสนใจ คือมีการออกมาแฉจากสายลับคนใกล้ตัวบอสพอล เปิดโปงผู้บริหารบริษัทธุรกิจตลาดตรงที่กำลังมีประเด็นร้อนแอบซุกเงินและติดสินบนเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมหาศาลเกิน 10 หลัก โดย เอกภพ เหลืองประเสริฐ แฉข้อมูลจากสายลับระบุว่าจ่ายเทวดาตั้งแต่ปี 63 รวมแล้วประมาณหมื่นล้าน เงินที่จ่ายไปทั้งหมดเทวดาเขาจะคุ้มครองช่วยเหลือดูแล 4 หน่วยงานหลักๆ ให้ก็คือ ดีเอสไอ สอท.ปคบ. และสคบ.
นายเอกภพยังฝากไปถึง 3 บอสที่เป็นตัวจักรสำคัญของเรื่องนี้ รวมถึงแม่ข่ายคสำคัญบางคน บอสใหญ่กำลังเอาพวกคุณเป็นเหยื่อซึ่งตนเชื่อว่าตามรูปการณ์แล้วเหยื่อทุกรายในเคสนี้ไม่น่ารอด ดังนั้นขอให้รีบเข้ามาให้ข้อมูล คลิปตอนนี้ที่หลุดออกมาน่าจะทราบดีว่าหลุดมาจากไหน อย่าไว้ใจเทวดาเพราะถ้าหากคุณหายไป อีกฝ่ายจะปลอดภัย
เอกสายไหมย้ำว่าวันนี้ขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบอสพอลหรือตัวของบอสใหญ่เองมาร่วมกันเปิดโปงบุคคลใดเรียกรับทรัพย์สินบ้าง เพราะวานนี้สังเกตในรายการโหนกระแส บอสพอลพยายามจะไม่พูด ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเชื่อว่าจะมีคนจัดการให้ หรือไม่จึงยังนิ่ง ไม่ยอมคายข้อมูลออกมา อย่างไรก็ดีนาทีนี้แนะนำเอาทรัพย์สินที่มีไปขายทอดตลาดเสียแล้วมาชดใช้ให้ผู้เสียหายที่ยากลำบากจริง ๆ
ส่วนใครอยู่เบื้องหลังคอยกินเครื่องเซ่นไหว้ นายเอกภพเตือนว่าให้รีบเข้าให้ข้อมูลโดยเร็ว เพราะหลักฐานที่มีการเซ่นไหว้เทวดาโดยใช้เงินสดฟอกแปลงเป็นสกุลเงินดิจิตอลซึ่งมีข้อมูลชัดเจ ไปเบิกถอนเงินสดที่ไหนแล้วไปแลกเป็นเงินดิจิตอลที่ใดได้ส่งให้ตำรวจตรวจสอบแล้ว.
อ่านข่าวเพิ่มเติม