แฉสนั่น บ.ธุรกิจเครือข่ายดัง เน้นคนกลุ่มนี้ รักษาสถานะทุกเดือนหลักหลายพัน
หนึ่งในผู้เคยทำธุรกิจที่กำลังใกล้ฝีแตก แฉสนั่นผ่านเฮียบรรจง บริษัทธุรกิจเครือข่ายขนาดใหญ่เน้นคนมีอายุ ข้าราชการ เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่ ยอมรับสินค้าใช้ดีแต่ราคาสูง ทุกเดือนซื้อบัตรเข้างาน 1,500 ไปนั่งปรบมือ ร้องเพลงฟังสตอรี่ของแต่ละคนที่เตรียมมา เสียค่ารักษาสถานะสมาชิกทุกเดือนหลักหลายพัน จริงๆ คือขายห้อง ขายเสื้อทีม ขายที่นั่ง
จากกรณี เฟซบุ๊กของหนุ่ม กรรชัย ออกมาเปิดหัวทำนองเตรียมเปิดโปงข้อมูลความไม่ชอบมาพากลของบริษัทธุรกิจเครือข่ายชื่อดัง ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโดยตอนนี้เริ่มมีเหยื่อออกมาแฉมูลค่าความเสียหายหลังจากตัดสินใจเข้าไปร่วมลงทุน
ล่าสุดเป็นเคสของแม่เลี้ยงเดี่ยวรายหนึ่งเข้าไปเริ่มทำธุรกิจเครือข่ายดังกล่าวได้ 1 ปี ตอนนี้ต้องเจอกับสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำแค่ปีเดียวลูกทีมบ่นเป็นเสียงเดียวกันสินค้าแพง ต้องรักษาสถานะสมาชิกทุกเดือนหลักหลายพัน แต่จริงๆ คือขายห้อง ขายเสื้อทีม ขายที่นั่ง โดยเหมาห้องประชุมราคาตายตัว “ลูกทีมมีแต่จ่ายกับจ่าย”
ข้อมูลแฉสด ๆ ร้อน ๆ จากเพจเฮียบรรจง เริ่มแจกแจงที่มาที่ไปของหนึ่งในผู้เคยทำธุรกิจที่กำลังใกล้ “ฝีแตก” (ใกล้เจ๊ง) มาเล่าให้ฟังโดยสรุป เริ่มจากแนวทางเลือกลูกค้าธุรกิจนี้จะเน้นคนมีอายุ, ข้าราชการ, เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่นั้นๆ หาคนบนหัวในชุมชนสักคนมาชักชวนคนไปลงทุน
ย้อนกลับไปราวปี 60-61 เจ้าของเรื่องแฉซึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เล่าว่าตนเองตกเป็น 1 คนที่บริษัทเครือข่ายอยากได้ร่วมทีม ตอนนั้นเป็นสินค้าของทางอเมริกา ยอมรับสินค้าใช้ดีมากแต่ราคาสูงเกิน ถูกชวนอยู่ 3 – 4 ครั้ง ราคาที่ต้องเปิดบิลตอนนั้นประมาณ 8,500 – 44,000 บ. สุดท้ายมีแม่ทีมมาเป็นสปอนเซอร์ โดยใช้ชื่อเจ้าของเรื่องผู้เสียหาย แต่เงินเปิดและสินค้าเป็นของอีกฝ่าย
หลังจากลงทุนไปได้สักพักปรากฏได้เข้าร่วมประชุมหลายครั้ง ทุกเดือนจะมีงานที่ต้องซื้อบัตรเข้าร่วมในราคา 1,500 บ. เพื่อไปนั่งปรบมือ ร้องเพลงฟังสตอรี่ของแต่ละคน ที่ทาง บ.เตรียมมา
เจ้าของเรื่องบอกว่าทำไปได้ 1 ปี ลูกทีมเริ่มบ่นสินค้าแพงขายยาก ของที่ตุนไว้ก็เริ่มเยอะเพราะต้องรักษาสถานะสมาชิกทุกเดือนหลักหลายพัน แต่มีงานจัดบ่อยมาก โดยอ้างว่าสอนนู่นนี่นั่น แต่จริงๆ คือขายห้อง ขายเสื้อทีม ขายที่นั่ง โดยเหมาห้องประชุมราคาตายตัว “ลูกทีมมีแต่จ่ายกับจ่าย” ไหนต้องหาดาวน์ไลน์อีก แต่การสอนงานขายน้อยมาก จะเน้นไปทางสอนชวนคนมากกว่า
นอกจากนี้เบื้องหลังที่หลาย ๆ คนไม่รู้คือ ใครที่ไม่สามารถชวนคนได้ ทางเครือข่ายก็จะทิ้งไปเลยไปหาคนใหม่
ทั้งนี้ เจ้าของเรื่องยอมรับถึงสาเหตุที่ตัดสินใจแยกตัวออกมา เนื่องจากเห็นลูกทีมเป็นหนี้หลายคน ถ้าตนไม่หยุด ลูกทีมบางคนก็จะไม่หยุดเหมือนกันเพราะเชื่อในตัวแม่ข่าย
“ตอนนั้น จุดอ่อนเราคือเสียลูกวัย 6 ขวบ จากอุบัติเหตุ เลยใจอ่อน อยากมีรายได้ดูแลครอบครัว เขาฝึกพูดชวนคนได้ดีเลยค่ะ สตอรี่ เรียกน้ำตามีเยอะ จำได้ทุกคนเลยในนั้น ใครเข้าไปแล้วน้อยคนที่จะสำเร็จค่ะ เพราะมันต้องแลกมาด้วยการเสียเพื่อนเสียญาติ เสียคนรอบข้างไปเพราะชวนลงทุนแบบนี้เลย” เนื้อหาบางส่วนที่ถูกเปิดเผยผ่านเพจเฮียบรรจงเมื่อไม่นานนี้.
อ่านข่าวเพิ่มเติม