ชายวัย 50 ปี โวยหมอสุดชีวิต กินแต่ของดีๆ แต่ทำไมตรวจเจอ มะเร็งลำไส้ สุดท้ายลูกชายพูดเอง หมอถึงกับส่ายหน้ากับอาหารโปรดจานนี้
ประเด็นดังกล่าวมาจากชายวัย 50 ปีชาวจีนอย่าง นายหลี่ ที่อาศัยอยู่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เจ้าตัวดูมีภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูอ่อนวัย ร่างกายสมส่วน และไม่ค่อยมีอาการป่วย เมื่อคนรอบตัวถามถึงเคล็ดลับการรักษาสุขภาพ เขามักพูดอย่างภูมิใจว่า กินอาหารให้เพียงพอ และออกกำลังกายเป็นประจำติดต่อกันมาหลายปี
ทว่า นายหลี่ ก็ถูกส่งโรงพยาบาลลางดึก หลีงเจ้าตัวรู้สึกปวดท้องมาก หลังรับประทานอาหารเย็น แต่ในตอนนั้นเจ้าตัวคิดว่าอาจเป็นเพราะกินอาหารเยอะเกินไปจนย่อยไม่หมด แต่อาหารปวดท้องก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีอาการอาเจียนร่วมด้วย แม้แต่จะเดินไปเข้าห้องน้ำเองยังทำไม่ได้
สุดท้าย เขาต้องไปปลุกลูกชายเพื่อให้พาเขาไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งแม้ว่าจะถึงห้องฉุกเฉิน นายหลี่ก็ยังคิดว่าอาการของเขาอาจเป็นเพียงแค่อาหารเป็นพิษเท่านั้น หรือระบบการย่อยอาหารผิดปกติ ทว่าเมื่อคำวินิจฉัยของแพทย์ออกทำให้เขาต้องตกใจอย่างหนัก เพราะเจ้าตัวถูกระบุว่าเป็นโรงมะเร็งลำไส้ ระยะที่ 2
หลังทราบผลตรวจ นายหลี่ก็เอามือปิดหน้าและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เพราะที่ผ่านมาเขาดูแลตัวเองด้วยการกินอาหารเพื่อสุขภาพมาโดยตลอด อีกทั้งในครอบครัวไม่มีใครเคยมีประวัติเป็นโรคนี้มาก่อน ทำให้เขารู้ว่าการตรวจเจอมะเร็งลำไส้ในครั้งนี้ไม่ยุติธรรมสำหรับตัวเขาเลย
แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความคิดว่าของ นายหลี่ เท่านั้น ต่างจากลูกชาย ที่ได้เล่าให้หมอฟังว่า ไม่ว่าคุณพ่อของเขาจะยุ่งแค่ไหน ก็จะกินอาหารครบ 3 มื้อต่อวันตรงเวลามาโดยตลอด แต่กลับไม่ได้ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างที่อ้างเลย
ลูกชายได้เล่าต่อว่า เนื่องจากครอบครัวของเขาอยู่กันเพียงแค่ 2 คน ตัวเขาเองก็ต้องออกไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ และมักจะกลับบ้านในช่วงดึก คุณพ่อมักจะรับประทาน “เนื้ออาหารแปรรูป” เช่น ไส้กรอก, แฮม, เบคอน และเนื้อกระป๋อง เพื่อประหยัดเวลา โดยเฉพาะอาหารประเภททอดและเนื้อแดง ที่เป็นอาหารที่ นายหลี่ โปรดปราน โดยคุณพ่อรายนี้กินอาหารประเภทนี้เกือบ 3 ครั้งต่อวันติดต่อกันเป็นเวลานาน ในขณะเดียวกันก็รับประทานผักน้อยลง และยังขี้เกียจดื่มน้ำอีกด้วย เมื่อลูกชายเตือน ก็มักจะแย้งด้วยเหตุผลว่าเขาแก่แล้ว อยู่ได้อีกไม่นาน เขาจะกินอะไรก็ได้ที่รู้สึกดี
แถมคุณหลี่ยังอ้างว่า ผู้สูงอายุจำเป็นต้องกินเนื้อสัตว์มากขึ้น เพื่อรับสารอาหารที่เพียงพอและไม่สูญเสียกล้ามเนื้อ แต่จากการที่เขาออกกำลังกายอย่างขยันขันแข็ง และไม่มีน้ำหนักเกินหรืออาการป่วย เขาจึงไม่ได้กังวลใดๆ กับเรื่องนี้
หลังจากที่แพทย์ทราบความจริงนี้ก็ถึงกับขมวดคิ้วด้วยความขุ่นเคือง และยิ่งโมโหมากขึ้นเมื่อ นายหลี่ ได้สารภาพด้วยตัวเองเมื่อเร็วๆนี้ ว่าแม้เขาจะกินเยอะ แต่น้ำหนักก็ยังลดอยู่ แถมยังมีอาการปวดท้องและท้องร่วงอย่างต่อเนื่อ และสังเกตเห็นเลือดในอุจจาระ 2-3 ครั้ง
ขณะที่แพทย์ก็ได้บอกว่า อาหารเหล่านั้นล้วนเป็นสัญญาณที่พบได้บ่อยของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ แต่ นายหลี่ กลับมีความคิดว่าตัวเองกินดีอยู่ดี และความผิดปกติเกิดขึ้นเพราะอายุของเขา และขี้เกียจกินผัก จนทำให้ระบบย่อยอาหารของเขาไม่ดีก็เท่านั้นเอง
อ้างอิง : soha.vn
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แพทย์ตอบชัดไม่ใส่กางเกงใน ออกกำลังกาย เสี่ยงโรคไส้เลื่อนไหมแค่ไหน
- เช็กอาการ ‘โรคปอดติดเชื้อ’ มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร
- นศ.แพทย์ทดสอบกิน “ไข่ 720 ฟอง” ในหนึ่งเดือน! พบผลลัพธ์น่าอัศจรรย์
