แจ้งข้อหาหนัก เพื่อนฆ่าน้องฟาง ม.3 ตร.จ่อสอบคนใกล้ชิด มีเอี่ยวด้วยไหม
ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก เด็กชายติ๊ก ม.3 อายุ 15 ปี ฆ่ารัดคอ “น้องฟาง” เพื่อนสนิทร่วมห้อง ชิงทรัพย์-ทิ้งศพในบ่อดิน เตรียมสอบสวนเพื่อนและแฟนผู้ต้องหา หากมีส่วนรู้เห็นในคดีฆาตกรรมโหดด้วยหรือไม่
จากกรณีคดี “น้องฟาง” เด็กนักเรียนชั้น ม.3 อายุ 15 ปี โรงเรียนใน จ.สงขลา ถูกเพื่อนสนิทร่วมห้องฆ่ารัดคอ ก่อนหมกศพอำพรางคดีกลางป่าในบ่อดินร้าง ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา ได้จับกุม ด.ช.บุญมี หรือ ติ๊ก อายุ 15 ปี พร้อมแจ้ง 3 ข้อหาหนัก ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้นยักย้าย หรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้เตรียมเรียกเพื่อนอีกคนที่นั่งรถไปด้วยกันในวันเกิดเหตุ และแฟนสาวของผู้ต้องหามาสอบสวน หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีตามกฎหมายเยาวชนต่อไป
เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นหลังจาก ด.ช.ฟาง หายตัวไป 5 วัน พร้อมรถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือ ภายหลังขับรถไปส่งเพื่อน 2 คนที่บ้าน การสืบสวนนำไปสู่การจับกุม ด.ช.ติ๊ก เพื่อนสนิทที่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรม
ต่อมา วันนี้ (30 ก.ย. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหอยโข่ง ได้คุมตัว ด.ช.บุญมี ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม ฟาง เพื่อนร่วมชั้น ม.3 ไปยังศาลเยาวชนและครอบครัว จ.สงขลา เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนโดยทีมสหวิชาชีพ เนื่องจากผู้ต้องหายังเป็นเยาวชน
ระหว่างถูกนำตัวขึ้นรถ ด.ช.ติ๊ก มีสีหน้าเรียบเฉยและตอบคำถามสั้น ๆ เพียงว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอโทษเพื่อนและแม่ โดยมีแม่และพี่สาวเดินทางไปด้วย
ในตอนแรก ด.ช.ติ๊กให้การปฏิเสธ แต่ในที่สุดก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่า ด.ช.ฟาง และนำศพไปทิ้งอำพราง พร้อมทั้งชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือไป โดยอ้างว่าทำไปเพราะความโกรธที่ถูกผู้ตายด่าแม่
หลังรับสารภาพ ตำรวจได้นำตัว ด.ช.ติ๊ก ไปตรวจยึดของกลางและชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่ง ด.ช.ติ๊ก ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมกับให้การเพิ่มเติมว่า ได้ขับรถจักรยานยนต์พาผู้ตายไปยังจุดเกิดเหตุ ก่อนจะลงมือทำร้ายร่างกายจนสลบ จากนั้นได้ใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิต และนำศพไปทิ้งในบ่อดิน
ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายเยาวชนต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง