เปิดตัวพร้อมกระแสดราม่าหนัก Assassin’s Creed Shadows ที่คนญี่ปุ่นไม่พอใจเกี่ยวกับการนำเสนอประวัติศาสตร์ที่อาจบิดเบือนและมีปัญหาเรื่องนำเสนอตัวละครผิวสี
กลายเป็นประเด็นร้อนวงการเกมสำหรับการเปิดตัว Assassin’s Creed Shadows จาก ยูบิซอฟต์ (Ubisoft) กับภาคใหม่ในแฟรนไชส์มือสังหาร ที่ภาคนี้ได้นำเสนอเรื่องราวในประวัติศาสตร์แดนอาทิตย์อุทัย โดยตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายลงทั้งเครื่องคอนโซล PlayStation 5, Xbox Series และ PC ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 2025 แต่ไม่วายโดนกระแสดราม่าจากการแฟนเกมและคนญี่ปุ่นออกแสดงไม่พอใจเกี่ยวกับตัวละคร ‘ซามูไรผิวสี’ ที่อาจจะบิดเบือนประวัติศาสตร์ได้
หลังจากที่ทางค่าย ยูบิซอฟต์ เผยแพร่คลิปเปิดตัวภาคนี้ออกไป ได้มีแฟน ๆ ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่เมื่อเกมเมอร์ชาวญี่ปุ่น ได้เห็นใบหน้าผิวพรรณของตัวละครเอกอย่าง “ยาสุเกะ” ซามูไรผิวสีในภาคนี้ ก็เกิดอาการต่อต้านขั้นรับไม่ได้
โดยชาวเน็ตอ้างเหตุผลว่าเกมทุกภาคที่ผ่านมาของ Assassin’s Creed มักใช้ตัวละครหลักที่เป็นคนท้องถิ่น แต่ทำไมถึงมาเกิดเปลี่ยนใจในภาคนี้ที่เป็นญี่ปุ่น ถึงเลือกที่จะใช้ตัวละครผิวสี และความเห็นอื่น ๆ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกัน เช่น
ทำไมถึงเลือกใช้คนผิวดำในวัตนธรรมญี่ปุ่น/ คุณควรเปลี่ยนคอนเซปต์เดี๋ยวนี้ เพราะนี่มันผิดสวนทางกับภาพลักษณ์ของ Assassin’s Creed และประวัติศาสตร์/ ในชีวิตจริงมันอาจเป็นเรื่องปกติ แต่การที่ได้เห็นต่างชาติลักษณะนี้ไปปรากฏอยู่ในโลกที่อิงตามประวัติศาสตร์ มันช่างเป็นเรื่องน่าตลก/ ถ้าหากอยากใช้ตัวละครผิวดำ ก็เปลี่ยนฉากหลังมันไปเลย/ ยาสุเกะ ผู้ที่ควรเป็นทาสรับใช้ถือดาบกลับลงสู่สมรภูมิโดยไม่ได้รับอนุญาต โนบุนากะ จึงต้องถือดาบด้วยตัวเอง ช่างน่าขันเสียจริง
จากกระแสดราม่าเดือดของแฟนเกม ทางค่าย Ubisoft จึงรีบออกมาแถลงเกี่ยวประเด็นนี้ โดย มาร์ก-อเล็กซิส โกเต้ (Marc-Alexis Côté) ตำแหน่ง Vice President Executive Producer ได้ออกมาอธิบายว่าตอนเริ่มพัฒนา Assassin’s Creed Shadows ทีมงานได้ศึกษาวิจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับ Yasuke จนมั่นใจว่าคนนั้นเป็นบุคคลในประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง และ “ยังคงปรากฏอยู่” ในตำรา
สิ่งที่ทีมงานอยากทำใน AC Shadows คือต้องการนำเสนอบุคคลประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก กล่าวเพิ่มเติมว่า Ubisoft มีความมั่นใจมากเกี่ยวกับเกมนี้ และอยากให้ผู้เล่นเปิดใจกับตัวละคร Yasuke
“เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ลองรีวิวเกม และผมก็แบบว่า ‘นี่แหละ คำตอบอยู่ตรงนี้แล้ว!’ ผมแค่หวังว่าเหล่าผู้เล่นจะเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ และดูว่าเกมมันเป็นอย่างไร เราเชื่อว่านี่คือเกม Assassin’s Creed และเชื่อว่านี่คือเกมที่ดีที่สุดที่เราสร้างมา” – Marc-Alexis Côté กล่าว
นอกจากนี้ Côté ได้ตอบสนองต่อโพสต์ของ Elon Musk ที่วิจารณ์เกี่ยวกับประเด็นซามูไรเชื้อชาติแอฟริกันว่า “DEI ฆ่าศิลปะ” (DEI หมายถึง ความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก) ว่าตอนแรกเขาเกือบจะโพสต์ตอบโต้ความคิดเห็นของ Musk แล้ว แต่สุดท้าย เขาเลือกที่จะไม่ทำมัน ถึงอย่างนั้น เขารู้สึกเสียใจที่ Musk โพสต์ข้อความที่เป็นการเติมไฟความเกลียดชัง และยืนยันว่า “จะไม่โน้มน้าวคนอื่นเกี่ยวกับมุมมองของเราในฐานะ Ubisoft”
ล่าสุดมีการทำคลิปที่อ้างว่า ได้สัมภาษณ์แหล่งข่าวคนนึง ซึ่งเป็นพนักงานของ ubisoft ซึ่งไม่ขอประสงค์ออกนาม ในประเด็นที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมการทำงานของบริษัท Ubisoft ซึ่งหลายบริษัทจะมีโควต้าพนักงาน ตามเพศสภาพ คือ ต้องมีเพศ LGBT กี่เปอร์เซ็น ต้องมีผู้หญิงกี่เปอร์เซ็น เป็นปัจจัยหลัก ก่อนเรื่องความสามารถของพนักงาน
พนักงานคนนี้เล่าว่าในส่วนทีมของเขาไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในส่วนทีมอื่น ๆ เห็นความเปลี่ยนแปลงเยอะพอสมควร เช่น พอมีกลุ่มพนักงานตามโควต้า DEI มากขึ้น ก็จะมีเรื่องร้องเรียนแปลก ๆ เช่น เวลาคุยกันในแชทกลุ่ม ไม่ลงท้ายด้วยอีโมจิยิ้ม หรือลงท้ายด้วยเครื่องหมายอัศเจรีย์ ก็จะถูกพนักงานกลุ่มนี้ร้องเรียนไปทาง HR บอกว่าการทำแบบนั้นเป็นการบุลลี่เขาด้วยวาจา ทำให้เขากระทบกระเทือนทางจิตใจ ช่วงหลัง ๆ ก็เกิดประเด็น เช่น การออกแบบเกมหรือตัวละครในเกม ก็เปลี่ยนคอนเซ็ปท์ไป จากเดิมจะเน้นการออกแบบให้เป็นอะไรที่เด็กผู้ชายต้องสนใจ
กลายเป็น ออกแบบเนื้อหาให้ปลอดภัยสำหรับคนทุกกลุ่ม การพัฒนาเกมมีข้อจำกัดเต็มไปหมด เพราะไม่อยากให้มันไปกระทบจิตใจกลุ่มใด ซึ่งเขาให้คำนิยามสภาพแวดล้อมในการทำงาน ณ ตอนนี้ว่า Toxic positivity (อาการคิดบวกเป็นพิษ)
สำหรับเนื้อของภาค Shadow จะย้อนเวลากลับไปสู่ญี่ปุ่นสมัยยุคศักดินาในช่วงที่กำลังเกิดไฟสงครามกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ผู้เล่นจะได้สวมบทเป็นทั้งนินจาลอบสังหารและซามูไรผู้ห้าวหาญทรงพลังออกตระเวนท่องสำรวจโลกโอเพ่นเวิลด์อันงดงาม ฝึกฝนเรียนรู้ศาสตร์วิชา เกณฑ์พลสมาชิกก่อตั้งลีกนินจา ตกแต่งรังลับของตนเอง และต่อสู้เพื่อนำพาญี่ปุ่นก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่
สำหรับภาคนี้มีจุดขายหลักอยู่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนสลับไปมาได้ 2 ตัวละคร จะเลือกสวมบทบาทเป็น “นาโอเอะ” (Naoe) นินจาสาวผู้ชำนาญด้านการลอบเร้นอำพรางกายสังหารเหยื่อแบบไม่ทันตั้งตัว หรือสวมบทเป็น “ยาสุเกะ” (Yasuke) ซามูไรหนุ่มผิวสีผู้มีชื่อขัดกับบุคลิกและเบ้าหน้า เน้นใช้พละกำลังมหาศาลและอาวุธอันใหญ่โตฟาดฟันทุบตีศัตรูให้ราบเป็นหน้ากลอง
แม้ในอดีตจะมันก็เคยมีเกมซามูไรที่ใช้ตัวละครเป็นชาวต่างชาติให้เห็นอยู่บ้าง แต่ยังไม่เคยมีเกมไหนเลยที่กล้าประวัติศาสตร์นำตัวละครผิวดำไปใส่ในช่วงเวลายุคสมัยนั้น
คงต้องมาลุ้นกันว่าเมื่อตัวเกม Assassin’s Creed Shadows วางจำหน่ายในช่วง 14 กุมภาพันธ์ปีหน้า กระแสเสียงตอบรับและยอดขายจะเปลี่ยนทิศทางหรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ก่อนงานเริ่ม 2 วัน Ubisoft Japan แจ้งยกเลิกการจัดแสดงออนไลน์ในงาน Tokyo Game Show 2024
- Ubisoft ราคาหุ้นตกหนักสุดรอบ 10 ปี หลังจาก Star Wars Outlaws เปิดตัวไม่ปัง
- เปิดตัว Ghost of Yotei เกมภาคต่อจาก Sucker Punch พร้อมขายในปี 2025