ย้อนเหตุการณ์ เก๋ เลเดอเรอร์ เสียชีวิต เกิดอะไรขึ้น ชื่อของ เอิร์ก เกี่ยวอะไร
เปิดแฟ้มคดี เอิร์ก เลเดอเรอร์ จากหลอกลงทุนสูญ 500 ล้าน สู่ปมฆาตกรรม “เก๋ เลเดอเรอร์” มีความเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง
The Thaiger ขอพาคุณผู้อ่านย้อนรอยคดีฉ้อโกงสุดฉาวที่กำลังเป็นที่จับตาของสังคมไทย กับกรณีของ “นายองอาจ” หรือ “เอิร์ก เลเดอเรอร์” ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวหลอกลวงเหยื่อลงทุนในธุรกิจเสริมความงามและสินค้าแบรนด์เนม สร้างความเสียหายรวมกว่า 500 ล้านบาท
สรุปคดี “เก๋ เลดเดอเร่อ” เสียชีวิต ปมแบกหนี้ 30 ล้าน?
เมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2567 นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ลิลลี่ เหงียน วันมะนี พอนสะหวัน นางแบบสาวชาวเวียดนาม-ลาว และกลุ่มนางแบบ FHM นางเอก MV ตัวแทนผู้เสียหาย ได้เดินทางไปยังศูนย์ฝึกอบรมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และเร่งรัดการติดตามตัว เอิร์ก เลเดอเรอร์ ที่หลบหนีคดีไปต่างประเทศ
เรื่องราวไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะนายแทนคุณยังได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญที่เชื่อมโยงคดีนี้กับการเสียชีวิตของ “เก๋ เลเดอเรอร์” หรือ เก๋ “กันยกร ศุภการค้าเจริญ” นางแบบสาวชื่อดัง ทั้งยังเป็นคนสนิทของเอิร์กที่ที่นับถือกันเป็นเหมือนพี่สาวและน้องชาย ซึ่งเคยตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 2561 หลังถูกพบเสียชีวิตจากการพยายามโดดตึกฆ่าตัวตาย โดยมีการระบุสาเหตุว่าอาจเกิดจากความเครียด จนมีคนโยงถึง เอิร์ก เพื่อนคนสนิท ที่พัวพันเรื่องเงินๆ ทองๆ
จากการสืบข้อมูลของนายแทนคุณ พบว่า เก๋ เลเดอเรอร์ เคยตกเป็นเหยื่อของ เอิร์ก เลเดอเรอร์ เช่นเดียวกัน โดยถูกหลอกให้ลงทุนในคลินิกเสริมความงาม จนทำให้ต้องแบกรับหนี้สินกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ความเครียดและการตัดสินใจจบชีวิตของเธอ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2561 เก๋ กันยกร หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เก๋ ลาพรีม” และ “เก๋ เลเดอเรอร์” เป็นนางแบบสาวที่กำลังมาแรง มีผลงานมากมายและคว้ารางวัลมาแล้วหลายเวที เธอเป็นที่รู้จักในฐานะคนสนิทของ เอิร์ก เลเดอเรอร์ ทั้งคู่มักจะโพสต์ภาพและวิดีโอโชว์ไลฟ์สไตล์สุดหรู และยังทำธุรกิจร่วมกัน จนหลายคนมองว่าพวกเขาเป็นเหมือนพี่น้องที่สนิทสนมกัน
กระทั่งความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มสั่นคลอน เก๋ตัดสินใจแยกตัวออกมาจากแบรนด์ “เลเดอเรอร์” ที่เคยทำร่วมกับเอิร์ก และหันมาเปิดคลินิกเสริมความงามของตัวเองชื่อ “ลาพรีม” ในรายการหนึ่ง เก๋เปิดใจถึงสาเหตุของการแยกทางว่าเกิดจากความไม่ชัดเจนในหลายๆ เรื่อง และไม่แน่ใจว่าคนที่เธอเคยร่วมงานด้วยนั้นเป็นใครกันแน่
เก๋ยืนยันว่าการแยกทางไม่ได้เกิดจากปัญหาเรื่องผลประโยชน์หรือการโกงเงิน แต่เป็นเพราะเธอรู้สึกว่าต้องแบกรับความรับผิดชอบเพียงลำพังในการทำธุรกิจ หากสำเร็จก็จะได้ดีด้วยกัน แต่หากล้มเหลว เธอก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
จากนั้น ในวันที่ 8 กันยายน 2561 มีรายงานข่าวว่า เก๋ เลเดอเรอร์ พยายามฆ่าตัวตายด้วยการโดดจากอาคารแห่งหนึ่ง ก่อนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลลาดพร้าว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
แม้จะยังไม่มีหลักฐานยืนยันความเชื่อมโยงระหว่างการเสียชีวิตของเก๋กับเอิร์ก แต่เรื่องราวนี้ก็ทำให้สังคมหันมาสนใจคดีนี้อีกครั้ง และเรียกร้องให้มีการสืบสวนอย่างละเอียดเพื่อหาความจริงและนำผู้กระทำผิดมารับโทษ
ข่าวการตายของเก๋ในครั้งนั้น สร้างความสงสัยให้กับสังคมเป็นอย่างมาก แต่เรื่องราวก็เงียบหายไป จนกระทั่ง 4 ปีต่อมา เอิร์กกลับมาตกเป็นข่าวฉาวอีกครั้ง กรณีนักร้องสาวสัญชาติลาวแฉว่าถูกหลอกเงินไป 34 ล้านบาท ทั้งยังมีเหยื่ออีกหลายคนร่วมเข้าแจ้งความ คิดเป็นเงินมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นทะลุ 500 ล้าน ทำให้หลายคนเชื่อมโยงการเสียชีวิตของเก๋กับพฤติกรรมของเอิร์ก และตั้งคำถามว่าเก๋อาจเป็นเหยื่อรายหนึ่งของเอิร์กเช่นเดียวกัน
“แทนคุณ” ชี้คนบันเทิงตกเป็นเหยื่อ “เอิร์ก” หลอกใช้บัญชีม้า
กระทั่งล่าสุด (2 ส.ค. 67) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เปิดเผยว่า บุคคลในวงการบันเทิงที่ถูกโยงใยกับคดีแชร์ลูกโซ่ของ “เอิร์ก เลเดอเรอร์” นั้น น่าจะเป็นเหยื่อที่ถูกหลอกลวงด้วยผลประโยชน์ล่อใจให้เปิดบัญชีม้า โดยไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิด
นอกจากนี้ นายแทนคุณยังระบุว่า กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปถึงการเสียชีวิตของ “เก๋ เลเดอเรอร์” นางแบบสาวชื่อดัง ที่เคยตกเป็นข่าวฆ่าตัวตายเมื่อปี 2561 เนื่องจากพบความเชื่อมโยงบางอย่างกับ เอิร์ก เลเดอเรอร์ โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนคลินิกเสริมความงามที่ทำให้เก๋ต้องแบกรับหนี้สินกว่า 30 ล้านบาท หากพบหลักฐานว่าเอิร์กมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเก๋ ก็อาจมีการรื้อฟื้นคดีเพื่อดำเนินคดีในข้อหาที่รุนแรงขึ้น เช่น ฉ้อโกงและฟอกเงิน
ด้าน พล.ต.ต.เขมรินทร์ หัสศิริ อดีต ผบก.ตท. ในฐานะที่ปรึกษา ผบ.ตร. ผู้รับเรื่องด้านต่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว จะดำเนินการขอศาลออกหมายจับเอิร์ก เลเดอเรอร์ และประสานงานกับตำรวจสากลเพื่อออกหมายแดง (Red Notice) เพื่อให้ 195 ประเทศทั่วโลกช่วยจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.เขมรินทร์ ยอมรับว่า การติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีไปต่างประเทศนั้นเป็นไปได้ยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ต้องหาถือสัญชาติของประเทศที่สาม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แห่ค้นอดีต ‘เอิร์ก เลเดอเรอร์’ ชาวเน็ตตั้งคำถามปม ‘เก๋ กันยกร’
- ประวัติ ‘เอิร์ก เลเดอเรอร์’ จากนักร้องสยามคันทรี่ สู่นักธุรกิจหุ่นล่ำ
- ชีวิตปัจจุบัน ‘เอิร์ก เลเดอเรอร์’ อดีตคู่กรณี ‘ลิลลี่ เหงียน’ ปมโกงเงิน
อ้างอิง : IG kae_laprim