จากกรณีแชร์ข่าวลือสุขภาพบนโซเชียล ถึงเรื่อง สระผมก่อนอาบน้ำ เสี่ยงเป็นสโตรก (Stroke) หรือเส้นเลือดสมองแตก จนเกิดเป็นกระแสทำชาวเน็ตผวาไม่กล้าสระผมกันยกใหญ่ ทางทีมงานไทยเกอร์จึงทำการสืบค้นข้อมูลจาก กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา ที่เคยประชาสัมพันธ์ข้อมูลด้านสุขภาพเป็นเกร็ดความรู้ไว้เมื่อปี 2565 ถึงข้อเท็จจริงดังกล่าวว่าจริงแท้อย่างไร
นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เผยว่าการสระผมก่อนอาบน้ำ อาจส่งผลทำให้เส้นเลือดแตกนั้น ไม่เป็นความจริง เนื่องจาก การสระผมไม่ว่าจะเป็นการสระด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น อุณหภูมิภายนอกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไม่ได้ส่งผลกับหลอดเลือดในทันที เพราะสมองและเส้นเลือด ถูกปกป้องด้วยผิวหนัง กล้ามเนื้อ กะโหลก และเยื่อหุ้มสมอง ดังนั้น การสระผมก่อนอาบน้ำจึงไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงของเส้นเลือดสมองแตก
ทั้งนี้ โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดของโรคทางระบบประสาท เป็นความผิดปกติของหลอดเลือดในสมอง ซึ่งโรคหลอดเลือดสมองแตก เป็นโรคที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้ป่วยทำให้เกิดภาวะทุพพลภาพและมีอัตราการเสียชีวิตที่สูง
นอกจากนี้ นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา ยังกล่าวเสริมว่า ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองแตก ได้แก่ ภาวะความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และอายุที่มากขึ้น นอกจากนี้ การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญและสามารถควบคุมได้ด้วยตนเอง
สำหรับการสระผมก่อนการอาบน้ำ หรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ แต่หากพิจารณาจะเห็นว่าเรามักพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตกในห้องน้ำ หรือหลังจากเข้าห้องน้ำ ซึ่งเกิดจากการปรับตัวจากการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ จากท่านั่ง เป็นท่ายืน หรือแม้แต่การก้มตัว มีผลทำให้หัวใจต้องปรับการทำงานให้พอเหมาะกับร่างกาย ซึ่งในคนสูงอายุ หรือผู้ป่วยโรคหัวใจ หลอดเลือดที่ไม่แข็งแรงและมีปัญหาจะไม่สามารถรับกับการปรับตัวดังกล่าว จึงทำให้เกิดภาวะเลือดออกในสมองได้
อย่างไรก็ตาม อาการเตือนสำคัญของโรคหลอดเลือดสมองที่สังเกตได้ ได้แก่ พูดลำบาก ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง มึนงงทรงตัวไม่อยู่ หากมีอาการเหล่านี้ทันทีทันใดควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตและความเสี่ยงจากความพิการ เพราะโรคหลอดเลือดสมอง รู้ เร็ว รอด ปลอดอัมพาต
Stroke หรือโรคหลอดเลือดสมอง มีสาเหตุมาจากหลอดเลือดสมองตีบ อุดตัน หรือแตก ส่งผลให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ จนทำให้สมองขาดเลือด และทันทีที่สมองขาดเลือด เซลล์สมองต่างๆ จะค่อยๆถูกทำลาย ส่งผลให้สมองสูญเสียหน้าที่จนเกิดเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิตได้ นอกจากนี้โรคหลอดเลือดสมองยังแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ชนิดได้แก่
1. โรคหลอดเลือดสมองตืบตัน หรือ Ischemic Stroke เกิดจากการสะสมของไขมัน หรือหินปูนบริเวณผนังหลอดเลือดชั้นใน จนทำให้ขนาดของหลอดเลือดค่อยๆ แคบลงหรือตีบ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการลำเลียงเลือดลดลง และรวมถึงสาเหตุจากการปริแตกของคราบไขมันบริเวณผนังหลอดเลือด ทำให้ลิ่มเลือดมาเกาะและเกิดเป็นภาวะหลอดเลือดอุดตันได้ในที่สุด
2. โรคหลอดเลือดสมองแตก หรือ Hemorrhagic Stroke ทันทีที่ผนังหลอดเลือดปริแตก เซลล์สมองจะขาดเลือดไปหล่อเลี้ยงทันที ส่งผลต่อเนื้อสมองโดยตรง และภายในระยะเวลาไม่นานเนื้อสมองจะตายลง ทำให้ผู้ป่วยมักเสียชีวิตในเวลาอันสั้น เป็นภาวะที่พบได้มากในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีหลอดเลือดโป่งพอง โรคตับ และโรคเลือดผิดปกติ
อ้างอิงจาก: กรมการแพทย์, โรงพยาบาลพญาไท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มื้อสุดท้าย ยูทูบสายกินดับสยอง หลังซัดไก่จานยักษ์ จนเส้นเลือดสมองแตก
- หนุ่มจีน อายุแค่ 28 เส้นเลือดสมองแตก เพราะชอบออกกำลังกายก่อนนอน
- จริงหรือไม่ ? ดื่มน้ำเย็นทำเส้นเลือดในสมองแตก ฟังหมอสมองเคลียร์ชัด
