งานวิจัยเผย คนนอนดึกตื่นสาย จะฉลาดกว่า คนนอนเร็วตื่นเช้า

sorrawitเผยแพร่: 16 ก.ค. 2567 10:04 น.| อัปเดต: 16 ก.ค. 2567 10:04 น.

51 Less than a minute

คนนอนดึกตื่นสาย ฉลาดกว่า คนนอนเร็วตื่นเช้า

งานวิจัยจากประเทศอังกฤษเผย คนนอนดึกตื่นสาย จะฉลาดกว่า คนนอนเร็วตื่นเช้า หลังจากทดสอบกลุ่มตัวอย่างกว่า 26,000 คน

นักวิจัยจาก Imperial College London ศึกษาข้อมูลจาก UK Biobank study ได้นำกลุ่มตัวอย่างกว่า 26,000 ราย มาทำการทดสอบสติปัญญา, การให้เหตุผล, เวลาตอบสนอง และความจำ

พวกเขาตรวจสอบว่าระยะเวลาการนอน, คุณภาพการนอน และโครโนไทป์ (chronotype) ซึ่งเป็นตัวกำหนดช่วงเวลาที่เราตื่นตัวและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่งผลต่อสมรรถภาพของสมองอย่างไร

โดยพวกเขาได้ยกตัวอย่างคนอนดึกมักจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับคนที่มีความคิดสร้างสรรคในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน, นักเขียน และ นักดนตรี อาทิ Henri de Toulouse-Lautrec, James Joyce, Kanye West และ Lady Gaga

ในขณะที่นักการเมืองอย่าง Margaret Thatcher, Winston Churchill และ Barack Obama จะสามารถทำงานได้ดีแม้จะนอนน้อย การศึกษานี้พบว่า ระยะเวลาการนอนมีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง โดยผู้ที่นอนหลับ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน จะทำคะแนนได้ดีที่สุดในการทดสอบความรู้ความเข้าใจ

ผลการศึกษาพบกว่า กลุ่มคนนอนดึก จะมีความสามารถทางสติปัญญาที่สูงกว่า กลุ่มคนตื่นเช้า โดยจาก ดร. ราฮา เวสต์ (Raha West) หัวหน้าทีมวิจัยและนักวิจัยคลินิกจากภาควิชาศัลยศาสตร์และมะเร็งวิทยาของ Imperial College London ได้ให้เหตุผลไว้ว่า

“ในขณะที่การทำความเข้าใจและทำงานร่วมกับแนวโน้มการนอนหลับตามธรรมชาติของคุณเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งสำคัญไม่แพ้กันคือการจำไว้ว่า คือต้องนอนหลับให้เพียงพอ ไม่มากหรือน้อยเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสุขภาพสมองและการทำงานให้ดีที่สุด”

พร้อมทั้ง ศาสตราจารย์ Daqing Ma ได้ออกมาอธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า “เราพบว่าระยะเวลาการนอนมีผลโดยตรงต่อการทำงานของสมอง และเราเชื่อว่า การจัดการรูปแบบการนอนหลับอย่างแข็งขันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเพิ่มพูนและปกป้องวิธีการทำงานของสมองของเรา”

อย่างไรก็ตามได้มีนักวิชาการบางคนได้ออกมาเตือนให้ระมัดระวังในการตีความผลการวิจัยนี้ “หากไม่มีภาพรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นในสมอง เราไม่รู้ว่าการเป็นคนนอนดึกตื่นสาย หรือ คนนอนเร็วตื่นเช้า ส่งผลต่อความจำและความคิด หรือการลดลงของความรู้ความเข้าใจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนอนหลับ”