นักบิน เล่าประสบการณ์ บั้งไฟพุ่งเฉียดเครื่องบิน สูง 8,000 ฟุต หวั่นหายนะ
นักบิน แชร์ประสบการณ์ บั้งไฟพุ่งเฉียดเครื่องบิน สูง 8,000 ฟุต ชี้เป็นอันตรายมาก หวั่นเกิดหายนะ วอนอยากให้ทุกคนที่มีส่วนร่วม คำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากที่เพจเฟซบุ๊ก บันทึกไม่ลับของคนขับเครื่องบิน ได้แบ่งปันเรื่องราวที่นักบิน บั้งไฟพุ่งเฉียดเครื่องบิน สูงเกือบ 8,000 ฟุต หวั่นเกิดหายนะได้
โดยทางเพจระบุว่า “นอกจากทางทางเหนือมีโคมลอยแล้ว ทางภาคอีสานก็ยังมีบั้งไฟอีกที่เป็นอันตรายต่อการบินมาก
อันนี้ความเห็นส่วนตัวผมนะ เข้าใจว่ามันเป็นประเพณีที่ทำกันมายาวนาน แต่อยากให้ทุกคนที่มีส่วนร่วมกับประเพณีนี้ขอให้มีจิตสำนึกเรื่องความปลอดภัยของส่วนรวมด้วย เพราะมันอันตรายกับอากาศยานมาก รวมถึงผู้โดยสารบนเครื่องบินครับ
ถ้าจะปล่อยบั้งไฟขอให้ขออนุญาตหน่วยงานด้านการบินก่อน และทำการปล่อยในจุดที่ขออนุญาต รวมถึงการเล่นการพนันขันต่อว่าบั้งไฟลูกไหนจะสูงกว่ากัน เลิกเถอะครับเพราะอันนี้มันไม่ใช่ประเพณีแล้ว ยิ่งมีคนเดิมพัน คนยิ่งผลิตก็ยิ่งพัฒนาให้บั้งไฟสูงขึ้นไปอีก
อย่างวันนี้ผมเทคออฟจากอุบล จากพิกัด radial 266 จากสนามบิน เจอบั้งไฟห่างจากเครื่องบินผมไม่ถึง 200 เมตร ขนาดผมอยู่ที่ความสูง 6000 ฟุต บั้งไฟยังขึ้นไปสูงกว่าผมอีก(มองด้วยสายตาน่าจะความสูง 8000ฟุต) ซึ่งมันอันตรายมาก หายนะเกิดได้ง่ายๆเลยกับการกระทำแบบนี้เพราะผมแจ้งหอว่าบริเวณนี้มีการปล่อยบั้งไฟ และหอไม่มีการรายงานการขออนุญาตในเขตพื้นที่แถวๆนี้ หลังจากนั้นเครื่องบิน ATR ของกองทัพอากาศก็รีพอร์ทบั้งไฟลูกอื่นๆ ตามมา หอบังคับการบินต้องให้คำแนะนำทิศทาศนักบินบินหลบกันอุตลุด คิดดูมันอันตรายแค่ไหนครับ”
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสทางเพจก็ได้เข้ามาขยายความต่อว่า “ขออภัยครับ
หลังจากบินกลับมาก็มีภาระกิจหน้าที่คุณพ่อลูกแฝดที่ต้องดูแลเลยไม่ได้ติดตามเลยว่ามีเพจฯข่าวหลายสำนักแชร์ออกไปและติดต่อเข้ามาหลังไมค์มากมาย พึ่งจะได้มีเวลามานั่งดูฮะ แต่ทะยอยตอบข้อความหลังไมค์พี่ๆ นักข่าวไม่ไหวจริงๆ ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้นะครับในการเล่าข้อมูลเพิ่มเติม
หลังจาก takeoff จากสนามบินอุบลฯ หอบังคับการบิน ได้ให้คำแนะนำให้บินออกจากสนามบินอุบล ด้วย radial 266 จากเครื่องวัดประกอบการบินสนามบินอุบล VOR เป็นการบินออกจากสนามบินทั่วไป เนื่องจากมีเครื่องลำอื่นกำลังมาลงที่สนามบินด้วยในช่วงเวลานั้นๆ รวมถึงมีเครื่องบินแบบ ATR ของกองทัพอากาศที่ ชื่อ call sign Cowboy04 ทำการเทคออฟตามหลังผมมาราวๆ 3-5 นาที
ระหว่างที่กำลังไต่ระดับความสูงผ่านความสูง ราวๆ 5000 ฟุต ผมเองก็มีภาระงานหลังจากเทคออฟที่นักบินต้องทำเยอะพอสมควร ทั้งการหลบเมฆ มองหาเครื่องบินลำอื่นๆที่กำลังจะเข้ามาลงที่อุบล การติดต่อหอบังคับการบิน และการ mornitor ค่าต่างๆของเครื่องบินว่าปกติหรือไม่
จากนั้นสายตาก็ไปมองเห็นวัตถุนึง กำลังร่วงหล่นลงสู่พื้นแล้วเพราะหมดเชื้อเพลิงเนื่องจากสังเกตุได้ว่ามีควันอยู่ที่ท้ายวัตถุ และช่วงนี้ก่อนทำการบิน นักบินทุกคนต้องมีการศึกษาข่าวอากาศ NOTAM (Notice To Airman) ก่อนทำการบินอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนมาจากกรุงเทพ จึงทราบว่าหลายจังหวัดทางภาคอีสานของไทย ช่วงนี่มีการจุดบั้งไฟกัน เลยมั่นใจได้ว่าสิ่งที่เห็นคือบั้งไฟอย่างแน่นอน จึงได้ทำการแจ้งหอบังคับการบินในทันที เพื่อให้หอบังคับการบินแจ้งเตือนเครื่องบินลำอื่นๆ ที่กำลังบินตามมา หรือจะมาทำการลงจอดที่สนามบินว่ามีการจุดบั้งไฟเพื่อความปลอดภัย
หอบังคับการบินได้ทำการแจ้งเตือนเครื่องบินของกองทัพอากาศที่ตามหลังผมมาว่าเครื่องบินลำหน้าพบบั้งไฟที่ความสูง 5-6 พันฟุตให้ระมัดระวัง นักบินเครื่องลำหลังก็รับทราบเพื่อระมัดระวัง สักครู่ หลังจากเครื่องบินลำหลังที่บินตามผมมา 2-3 นาที ก็แจ้งหอบังคับการบินอีกเช่นกันว่าเค้าเองก็พบบั้งไฟลอยขึ้นมาใกล้ๆ เครื่องบินเค้าและอาจจะไม่ปลอดภัย หอบังคับการบินจึงได้ให้คำแนะนำให้เครื่องบินกองทัพอากาศบินฉีกออกไปทางทิศทางการบินอื่นเพื่อความปลอดภัย
จากรูปแรกที่วงไว้คือควันของบั้งไฟที่ผมถ่ายได้ชัดสุดแค่นี้ เพราะไม่สามารถถ่ายวิดีโอได้เนื่องจากกำลังทำการบินอยู่ที่ความสูงไม่สูงมาก จึงได้แค่หยิบโทรศัพมาถ่ายแค่ 2-3 รูป เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการรายงานเพื่อส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบต่อไป ส่วนควันสีขาวด้านบนของรูปแรก มันคือ contrail หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าไอเสียเครื่องบิน ที่เราเห็นเป็นเส้นยาวๆ ของเครื่องบินลำอื่นที่บินผ่านน่านฟ้าไทยในระดับความสูงมากๆ ถึงจะเกิด contrail ได้ (อยากทราบการเกิด contrail หาอ่านได้ในเพจผมฮะ เคยเขียนเล่าให้ฟังแล้ว) ที่ความสูงต่ำๆ เครื่องบินจะไม่เกิด contrail
ในภาพถ่ายอาจจะเห็นว่าดูเหมือนไกล แต่จริงๆแล้วระยะที่บั้งไฟขึ้นมา ห่างเครื่องบินไม่น่าจะเกิน 2-3 ร้อยเมตรเท่านั้น เป็นปกติที่คนเราจะดูรูปแล้วบอกว่ามันไกล เพราะมันเป็นรูปถ่าย และเราไม่มีระยะอ้างอิงสายตา
รูปที่สอง นี่คือตัวอย่าง notam ที่สนามบินจะแจ้งเตือนให้นักบินทราบว่าจะมีอะไรที่เกิดขึ้นที่สนามบินบ้าง นักบินต้องศึกษาอ่าน และมี situation awareness ว่าเรากำลังจะบินผ่านจุดไหนที่มีความเสี่ยงบ้าง และที่เค้ามาออก notam ได้เพราะมีการ ”ขออนุญาต“ ก่อนล่วงหน้าว่าจะมีการยิงบั้งไฟ ที่บริเวณไหนบ้าง ช่วงเวลาไหน อันนีัคือสิ่งที่ถูกต้องและควรทำ เพราะเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินก็จะทราบพิกัดที่ค่อนข้างแน่นอน และจะไม่ให้นักบินบินผ่านพื้นที่ดังกล่าวตามห้วงเวลานั้นๆ แต่ปัญหาที่เราพบวันนี้คือ ”คนที่ไม่ได้ขออนุญาต“ และยิงบั้งไฟสูงเสียด้วยนี่แหละครับที่ส่วนรวมเดือดร้อน
รูปที่ 3 คือรูปที่ผมพึ่งได้เอามานั่งดูเวลาที่ถ่าย ด้วยความที่มือถือสมัยใหม่ มีการบันทึกเวลา ชนิดกล้อง เลนส์ที่ถ่าย รวมถึงพิกัด gps เลยได้รูปมาอย่างที่เห็นครับว่ามันเกิดประมาณจุดไหน
ทั้งหมดที่ผมออกมาเขียนเตือนเพราะผมเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยครับ เข้าใจดีว่ามันเป็นประเพณี อย่าไปดราม่ากันว่าคนท้องที่ไหนเลย ผมก็ลูกหลานคนอีสาน พ่อผมเป็นคนอุบลนี่แหละ แต่อยากให้คนที่ร่วมประเพณีได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของส่วนรวมและการเดินอากาศด้วยครับ ไม่ใช่ ”ทำอะไรตามใจคือไทยแท้“ เราต้องช่วยกันทำตามกฎเพื่อความปลอดภัย และไม่ใช่อ้างประเพณีว่าทำกันมาแบบนี้ ทุกวันนี้หลายคนคงทราบมันคือการเล่นการพนันกัน ว่าใครบินสูงกว่ากัน เดิมพันกัน มีแพ้มีชนะ คนที่ทำบั้งไฟแม่งก็ยิ่งทำให้มันบินสูงไปเรื่อยๆ
ลองคิดบ้างนะถ้าวันนี้ ”พ่อแม่พี่น้องลูกเมียของคนที่ทำแบบนี้บังเอิญจะกลับบ้านมางานบุญบั้งไฟโดยเที่ยวบินไหนสักเที่ยว แล้วมาโดนบั้งไฟที่ คุณเองทำชนเครื่องบินจนเกิดความสูญเสีย คุณจะคิดอย่างไร?” ฝากไว้ให้คิดครับ”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ดูกันให้ชัด อ.เจษฎ์ เปิดภาพที่มา “บั้งไฟพญานาค” แท้จริงเป็นกระสุนส่องวิถี
- ลุ้น อ.เจษฎา เผย ผลพิสูจน์บั้งไฟพญานาค หลังรับคำท้า แต่ไม่วางเดิมพัน 1 ล้าน เพราะไม่มีเงิน
- คหบดีบึงกาฬ ท้า ‘อ.เจษฎา’ วางเงินเดิมพัน 1 ล้าน พิสูจน์บั้งไฟพญานาค