ข่าว

แสงสีเขียวบนฟ้า เมื่อคืนนี้ นักดาราศาสตร์เฉลยแล้วคือ “ดาวตกดวงใหญ่”

เฉลยแล้ว ที่มาแสงสีเขียวบนฟ้า เมื่อคืนนี้ หลังทำชาวบ้านตกใจ เห็นดวงไฟสว่างวาบทั่วท้องฟ้า นักดาราศาสตร์ชี้ เป็นแสงของดาวตกดวงใหญ่

เมื่อคืนนี้ (4 มี.ค. 67) คนไทยจำนวนมากในบริเวณภาคกลาง ได้เป็นพยานพบเห็นลูกไฟสีเขียวขนาดใหญ่ ลอยเด่นบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ตอนช่วงเวลาประมาณ 21.0 น. ที่ผ่านมา จนทำเอาหลายคนสงสัยว่ามันคืออะไรกันแน่

ดาวตก ลูกไฟสีเขียว

ต่อมา ทางเพจเฟซบุ๊ก สมาคมดาราศาสตร์ไทย ได้ออกมาโพสต์แจ้งข่าวเรื่องลูกไฟสีเขียว พร้อมระบุว่าจะรีบทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง “เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา ลูกเพจหลายท่านรายงานการพบเห็น ลูกไฟสีเขียวสว่างใหญ่ ☄️ เห็นได้หลายจังหวัดในภาคกลาง สมาคมดาราศาสตร์ไทย กำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะรีบรายงานให้ทราบเป็นระยะครับ 🙏”

ก่อนที่ต่อมา ทางเพจสมาคมดาราศาสตร์ไทย จะออกมาโพสต์ความคิดเห็นของ Jonathan McDowell ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้ออกมาอธิบายถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “สรุปคือ ดาวตกดวงใหญ่ครับ”

ลูกไฟสีเขียว 4 มีนาคม 2567

ทั้งนี้ได้มีข้อมูลเพิ่มเติมระบุว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นตำแหน่งของดาวหาง 12P/Pons-Brooks ซึ่งจะโคจรเข้ามาใกล้โลกในทุก ๆ 71 ปี โดยยิ่งเข้าใกล้มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะมองเห็นดวงไฟที่สว่างจ้าได้มากขึ้นเท่านั้น

แต่ในปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันว่า ลูกไฟสีเขียวของดาวตกขนาดใหญ่ที่ชาวบ้านเห็น จะเป็นดวงเดียวกับดาวหาง 12P/Pons-Brooks ที่มีการคาดการณ์ไว้หรือไม่.

ดาวตก-อุกกาบาต ต่างกันอย่างไร

สองคำนี้เป็นศัพท์ทางดาราศาสตร์พื้นฐานที่หลายคนยังสับสนกันอยู่มาก เพราะเป็นปรากฎการณ์ทางท้องฟ้าที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนักถ้าไม่สังเกต

ดาวตก

ดาวตก หรือที่เราเรียกกันอีกชื่อว่า “ผีพุ่งใต้” คือ เศษวัตถุหรือฝุ่นขนาดเล็กจากอวกาศ เช่น เศษดาวหางหรือดาวเคราะห์น้อย ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ เมื่อมันตกลงสู่ชั้นบรรยากาศโลก แรงเสียดทานจะทำให้เกิดความร้อนและแสงสว่าง เป็นเส้นสีสวยงามบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ซึ่งดาวตกเหล่านี้มักเผาไหม้จนหมดก่อนที่จะถึงพื้นโลก

ลักษณะของดาวตก

  • แสงสว่างของดาวตกจะปรากฏเป็นเส้นสั้นๆ ยาวประมาณ 1 – 2 ฟุต กินเวลาเพียงไม่กี่วินาที
  • สีของดาวตกจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของวัตถุ เช่น สีเหลือง สีเขียว สีแดง สีน้ำเงิน
  • ดาวตกสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่บนโลก แต่จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในบริเวณที่มืดสนิท ไร้มลภาวะทางแสง

ตัวอย่างดาวตก

  • ดาวตก Perseid ที่เราเห็นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนสิงหาคม เป็นเศษฝุ่นจากดาวหาง Swift-Tuttle
  • ดาวตก Leonid ที่เราเห็นเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือนพฤศจิกายน เป็นเศษฝุ่นจากดาวหาง Tempel-Tuttle

อุกกาบาต

อุกกาบาต คือ ชิ้นส่วนของดาวเคราะห์น้อยหรือดาวหางที่มีขนาดใหญ่กว่าดาวตกมาก มักมีขนาดตั้งแต่ก้อนกรวดไปจนถึงขนาดบ้าน เมื่อมันตกลงสู่ชั้นบรรยากาศโลก แรงเสียดทานจะเผาไหม้ผิวด้านนอกบางส่วน แต่ตัวอุกกาบาตจะไม่เผาไหม้จนหมด ยังคงเหลือชิ้นส่วนตกสู่พื้นโลก เรียกว่า “หินอุกกาบาต”

ลักษณะของอุกกาบาต

  • แสงสว่างของอุกกาบาตจะปรากฏเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ สว่างกว่าดาวตกมาก กินเวลาหลายวินาที
  • เสียงของอุกกาบาตจะดังสนั่นคล้ายเสียงฟ้าร้อง
  • อุกกาบาตบางชิ้นอาจสร้างหลุมอุกกาบาตบนพื้นโลก

ตัวอย่างอุกกาบาต

  • อุกกาบาตที่ตกในจังหวัดชัยภูมิเมื่อปี พ.ศ. 2563 มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร
  • อุกกาบาต Chicxulub ที่ตกลงบนคาบสมุทรยูคาทาน ประเทศเม็กซิโก เมื่อ 66 ล้านปีก่อน มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 กิโลเมตร เชื่อกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์

ตารางสรุปเปรียบเทียบ

ลักษณะ ดาวตก อุกกาบาต
ขนาด เล็ก (เท่าเมล็ดข้าวโพด – ก้อนกรวด) ใหญ่ (เท่าก้อนกรวด – บ้าน)
แสงสว่าง เส้นสั้นๆ ยาวประมาณ 1 – 2 ฟุต กินเวลา 2-3 วินาที ลูกไฟขนาดใหญ่ สว่างกว่าดาวตกมาก กินเวลาหลายวินาที
เสียง ไม่มี ดังสนั่นคล้ายเสียงฟ้าร้อง
เผาไหม้ เผาไหม้จนหมดก่อนถึงพื้นโลก เผาไหม้บางส่วน ยังมีชิ้นส่วนตกสู่พื้นโลก
ตัวอย่าง Perseid, Leonid ชัยภูมิ, Chicxulub

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

Eye Chanoknun

นักเขียนประจำ Thaiger จบจากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีประสบการณ์เขียนงานผ่านเว็บไซต์ด้านความงามและแฟชั่นชื่อดังของไทยมากกว่า 3 ปี ปัจจุบันชื่นชอบการเขียนข่าวบันเทิง ภาพยนตร์ ซีรีส์ k-pop และไลฟ์สไตล์ เพื่อนำมาบอกเล่าผ่านตัวอักษร ด้วยมุมมองใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ ชวนให้ติดตาม ช่องทางติดต่อ eye@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button