ถึงทางตัน วินัย ไกรบุตร ขอขมาเจ้ากรรมนายเวรคนที่ 7 แต่เจ้าตัวไม่ยอมอโหสิกรรมให้ เนื่องจากเป็นมุสลิม ไม่มีความเชื่อเรื่องนี้ ด้านหนุ่ม คงกระพัน สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญหลักอิสลามเพื่อหาคำตอบ
ยังคงอยู่ในเส้นทางการขออโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร สำหรับ เมฆ วินัย ไกรบุตร หลังจากทำพิธีขอขมาเพื่อแก้กรรมกับทั้ง 6 เจ้ากรรมนายเวรที่ผ่านมา ทำให้อาการป่วยตุ่มน้ำพองที่รักษามาอย่างยาวนาน ค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ แต่แล้วก็ต้องมาถึงทางตัน เมื่อเจ้ากรรมนายเวรคนที่ 7 ไม่ยอมอโหสิกรรมให้ เนื่องจากเป็นนับถือศาสนาอิสลาม ทั้งยังไม่มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องชาติที่แล้วอีกด้วย
ล่าสุด หนุ่ม คงกระพัน ได้อัพโหลดคลิปวิดีโอ ทำอย่างไร? เจ้ากรรมคนที่ 7 ไม่อโหสิ ลงบน Youtube Channel หนุ่มคงกระพัน official ที่ได้ทำการสัมภาษณ์ ดร.อิมรอน มะลูลีม ผู้เชี่ยวชาญคัมภีร์และหลักการศาสนาอิสลาม โดยคุณหนุ่มได้หยิบยกประเด็นที่คุณเมฆ มีอาการป่วยเรื้อรังถึง 5 ปี ทั้งยังเป็นชาวมุสลิม ซึ่งคุณเมฆได้ไปทำการขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรตั้งแต่อดีตชาติ ทั้งยังขอพร และไหว้พระอีกด้วย เพื่อสอบถามความเห็นในมุมของ อ.อิมรอน
ด้าน อ.อิมรอน จึงตอบว่า คุณจะไปทำอะไรก็ได้ แต่ขอให้มีพระเจ้าอยู่ในหัวใจตลอดเวลา และต้องเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าด้วย ว่าผู้ที่ทำให้ตนหายจากโรคไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพระเจ้าที่ประทานความรู้แก่หมอ เพื่อรักษาให้ตนหายจากอาการป่วย ซึ่งนี่คือความเชื่อ บางคนมีความเชื่อจริง แต่ด้วยสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทำให้เขาต้องกระทำแบบนั้น โดยเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล
เรื่องที่คุณวินัย ได้ทำเพื่อรักษาอาการป่วยของตนเองนั้น อ.อิมรอน ไม่ได้ติดใจสงสัยใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากว่าเขามีพระเจ้าอยู่ในหัวใจ เพราะคนเก่งนั้นมีอยู่หลายเผ่าพันธุ์ หลายพวก หลายศาสนา ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องไปจำกัดว่าเป็นคนศาสนาไหน เชื้อชาดใด ดังนั้น จะไปรักษากับใครก็ไม่ห้าม ไปรักษากับพระก็ได้ เพราะสมัยก่อนตนก็เคยไปรักษาอาการป่วยกับพระเช่นเดียวกัน
คุณหนุ่ม ได้กล่าวเพิ่มเติม เกี่ยวกับอาการป่วยของคุณเมฆที่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย โดยชาวพุทธมักเรียกโรคแบบนี้ว่า โรคเวรโรคกรรม จึงได้ถามถึงศาสนาอิสลาม ว่ามีความเชื่อแบบเดียวกันหรือไม่ ทาง อ.อิมรอน จึงให้คำตอบว่า อิสลามไม่มีความเชื่อดังกล่าว เชื่อเพียงแค่เรื่องการเกิดอย่างเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังคิดว่านี่อาจเป็นบททดสอบจากพระเจ้าก็เป็นได้ แต่จะให้ไปเชื่อเรื่องชาติปางก่อนก็คงไม่ได้
ด้านศาสนาอิสลามนั้นมีหลักคิดสำคัญ คือ การให้อภัย หากกระทำผิดต่อมนุษย์ด้วยกันเอง ให้ไปขอโทษกับบุคคลที่เราไปกระทำความเดือดร้อนให้ ทั้งต้องสำนึกผิดด้วยใจจริง จากนั้นจึงขออภัยโทษต่อพระผู้เป็นเจ้าโดยตรง และอย่ากลับไปทำซ้ำอีก ซึ่งในศาสนาอิสลามไม่มีสื่อกลาง จึงสามารถขอโทษพระเจ้าจากโดยตรงจากที่ไหนก็ได้ โดยในภาษาอิสลามมีคำว่า มาอัฟ ที่หมายถึง การให้อภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก
ในกรณีของคุณวินัย ตามความเชื่อศาสนาพุทธ เจ้ากรรมนายเวรในอดีตที่คุณวินัยได้ไปสร้างกรรม มี 2 คนที่เป็นชาวมุสลิม คนแรกได้เสียชีวิตแล้ว อีกคนยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งได้มีโอกาสได้พบเจอและติดต่อเพื่อขอพบ แต่ท่านได้บอกว่าตามความเชื่ออิสลามนั้น ไม่มีชาติที่แล้ว ไม่เคยมีความผิดต่อกัน ไม่อนุญาติให้ทำพิธีขอขมา จึงขอความคิดเห็น อ.อิมรอน ว่าหากคุณวินัยได้มาขอขมาตัวขออาจารย์ที่เป็นชาวมุสลิม จะคิดเห็นอย่างไร
อ.อิมรอน ได้ให้ความเห็นว่า ตามหลักศาสนาอิสลาม กรณีชาติปางก่อนไม่มีอยู่จริง ชาวมุสลิมต้องไม่เชื่อเรื่องชาติที่แล้ว หากคุณวินัยมาขออโหสิกรรมกับตนจริง ตนจะขอพรจากพระเจ้าให้หายจากโรคร้ายที่กำลังประสบพบเจออยู่ แต่อย่าไปนึกว่าเคยมีกรรมต่อกันตั้งแต่อดีตชาติ ไม่ต้องอโหสิกรรมกัน เพราะไม่เคยกระทำความผิดต่อกัน ทั้งการอวยพรอาจส่งกำลังใจให้เขาอีกด้วย
ด้าน อ.ไพศาล แสนไชย ได้ยืนยันว่า แม้เจ้ากรรมนายเวรคนที่ 7 จะไม่ยอมอโหสิกรรมก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ขอให้ทำ หากมีปัญหาให้มาบอกตน ตนพร้อมช่วยหาทางออกให้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง