สุขภาพและการแพทย์

เช็กอาการ ‘โรคปอดติดเชื้อ’ มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร

สัญญาณเตือนสุขภาพ โรคปอดติดเชื้อ ภัยใกล้ตัวที่อาจถึงชีวิตได้ เกิดจากเชื้อโรคเข้าสู่ปอดผ่านทางลมหายใจและกระแสเลือด หลังมีรายงานระบาดหนักที่จังหวัดชัยภูมิ เจอผู้ป่วยในเรือนจำ 200 ราย

ปัจจุบันถือว่าเรื่องของสุขภาพร่างกายนั้นเป็นสิ่งสำคัญกว่าเรื่องอื่น ๆ เพราะการมีสุขภาพที่ดีส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันของเรานั้นสามารถทำอะไรได้หลากหลายอย่าง แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงภัยที่ใกล้ตัวเราจนใครหลายคนอาจจะหลงลืมและละเลยมันไป นั่นก็คือ “อาการปอดติดเชื้อ” ภัยใกล้ตัวและติดต่อได้ง่ายจึงจะพามาเช็คสาเหตุการติด อาการของปอดติดเชื้อ และวิธีรักษาดูแลตัวเอง

Advertisements

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 ผอ. สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 ระบุว่า ตอนนี้มีการระบาดของโรคปอดติดเชื้อไม่ทราบสาเหตุในเรือนจำภูเขียว ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วใน 2 วัน มีผู้ป่วยทั้งหมด 19 ราย โดย 3 รายอาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ

อาการปอดติดเชื้อ หากปล่อยละเลยหรือเมื่อมีอาการหนักขึ้นแล้วไม่รีบไปโรงพยาบาลหาหมออาจะเสี่ยงทำให้ถึงขึ้นแก่ชีวิตได้เลย ซึ่งปอดติดเชิื้อคือการที่ เชื้อโรค เข้าสู่งร่างกายไปที่ปอดแต่การที่เชื้อโรคเข้าไปสู่ปอดจะต้องผ่านจมูก คอหอย หลอดลมใหญ่ หลอดลมเล็ก และเข้าสู่ถุงลมปอด จากการสูดลมหายใจ และจากทางกระแสเลือด

ปอดติดเชื้อ
ภาพจาก : RAMA CHANNEL true visions 42

ปอดติดเชื้อคืออะไร

ปอดติดเชื้อคือการที่ เชื้อโรค เข้าสู่ร่างกายคนเราแล้วลงไปลึกจนถึงปอดแต่กว่าที่เชื้อโรคจะผ่านเข้าไปถึงปอดซึ่งเปรียบเสมือนด่านสุดท้ายของระบบทางเดินหายใจได้ ต้องผ่านหลายอวัยวะด้วยกันตั้งแต่ จมูก คอ หลอดลมเหล็ก หลอดลมใหญ่ จึงหมายความว่าเมื่อใดที่เชื้อโรคผ่านมาถึงเนื้อปอดได้แสดงให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่ามีความรุนแรงและเป็นอันตรายมาก

โดยสามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้ด้วยสาเหตุหลัก 2 ทาง คือ จากการสูดลมหายใจ และจากทางกระแสเลือด หมายถึงการติดเชื้อมาจากส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย แล้วกระจายมาสู่ปอดผ่านทางกระแสเลือด

อาการที่บ่งบอกว่ามี อาการปอดติดเชื้อ

  1. ไข้สูง หนาวสั่น
  2. มีอาการไอมาก หายใจเร็ว อกบุ๋มเวลาหายใจ
  3. เหนื่อยหอบ และจะเหนื่อยง่ายเวลาออกแรง
  4. เจ็บเสียดบริเวณหน้าอก หรือชายโครง เวลาหายใจเข้า-ออก

สังเกตได้ว่าอาการของปอดติดเชื้อจะคล้ายกับอาการไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดใหญ่ทั่วไป แต่จุดที่สามารถสังเกตได้อย่างนึงของ อาการปอดติดเชื้อ คือมักจะไอมากเมื่อหายใจเข้า-ออก และจะไม่มีอาการการเจ็บคอ ไม่มีน้ำมูกไหล แต่ไข้หวัดทั่วไปจะมี 2 อาการนี้ร่วมด้วย

Advertisements

นอกจากนั้น หากปอดติดเชื้อในขั้นรุนแรงสามารถสังเกตได้จากการหายใจเข้าออก จะมีความรู้สึกเจ็บเสียดบริเวณหน้าออกหรือชายโครงเพราะติดเชื้อรุนแรงจนมีน้ำขังในบริเวณเยื่อหุ้มปอด หากพบว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการดังกล่าวควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที

อาการปอดติดเชื้อ
ภาพจาก : สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

ปอดติดเชื้อสาเหตุเกิดจากอะไร

สาเหตุของปอดติดเชื้อเกิดได้จากการติดเชื้อซึ่งร่างกายสามารถรับเชื้อได้หลากหลายชนิด ทั้งเชื้อแบคทีเรีย (เชื้อสแตฟฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus), เชื้อนิวโมค็อกคัส (Streptococcus pneumoniae), ไมโครแบคทีเรียมทูเบอร์คูโลซิส (Mycobacterium Tuberculosis) เชื้อไวรัส (ไข้หวัดใหญ่, หัด, อีสุกอีใส) พยาธิและเชื้อรา โดยสาเหตุและปัจจัยร่วมที่ทำให้ร่างกายถูกเชื้อโรคเหล่านี้คุกคามเกิดจาก

1. การได้รับเชื้อ โดยผ่านตัวกลางที่เป็นพาหะอย่างละอองน้ำ หรือละอองฝุ่น และเดินทางเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ

2. ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ในบางครั้งเชื้อโรคที่ได้รับอาจไม่ได้รุนแรงสำหรับบุคคลทั่วไปที่มีร่างกายแข็งแรง แต่ในบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือร่างกายไม่แข็งแรง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงวัย จะทำให้เกิดเชื้อโรคเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่าปกติ

3. ความรุนแรงของเชื้อโรคและชนิดของเชื้อ ถึงแม้ว่าจะมีร่างกายที่แข็งแรงแต่หากร่างกายได้รับเชื้อโรคชนิดรุนแรง สามารถทำให้เกิดอาการติดเชื้อได้เช่นกัน

4. การรับประทานยาที่มีผลต่อภูมิคุ้มกันร่างกาย กลุ่มคนไข้ที่ทานยากดภูมิทำให้ภูมิคุ้มกันโดยรวมไม่แข็งแรงพอที่จะต้านเชื้อได้ หรือในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับสารเคมี ได้รับการทำเคมีบำบัด มีโอกาสปอดติดเชื้อได้มากกว่าปกติ เพราะภูมิคุ้มกันถูกทำลายจากยาที่ได้รับ

ต้องรักษาตัวอย่างไร หากมีอาการปอดติดเชื้อแล้ว

การรักษาโรคปอดติดเชื้อจำเป็นที่จะต้องได้รับยาฆ่าเชื้อเป็นหลัก โดยจะต้องทำการตรวจหาเชื้อก่อนว่าเป็นเชื้อโรคชนิดใดเพื่อที่จะได้รับยาฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง ซึ่งหัวใจหลักของการรักษาอาการปอดติดเชื้อ คือหากได้รับยาฆ่าเชื้อเร็วมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีโอกาสหายเป็นปกติสูง รวมไปถึงลดโอกาสการเสียชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้สูงวัย และบุคคลที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ปลอดภัยจากปอดติดเชื้อ ควรดูแลตัวเองอย่างไร

  1. ล้างมือและรักษาความสะอาด ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะใช้มือสัมผัสสิ่งต่างๆที่อาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ หากเราเอามือที่สกปรกไปหยิบอาหารรับประทาน หรือนำมาขยี้ตา สูดดม อาจทำให้ได้รับเชื้อเข้าสู่ปอด และเข้าสู่ร่างกายได้
  2. ฉีดวัคซีนป้องกัน การรับวัคซีนป้องกันโรค เช่น วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ วัคซีนนิวโมคอคคัส สามารถช่วยลดความเสี่ยงจากโรคปอดติดเชื้อได้
  3. ดูแลสุขภาพและพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เป็นพื้นฐานทำให้เรามีสุขภาพที่ดี มีภูมิคุ้มกันร่างกายที่ดี ซึ่งก็จะทำให้โอกาสปอดติดเชื้อลดน้อยลง

ป้องกันปอดติดเชื้อได้ง่าย ๆ เพียงแค่ฉีดวัคซีน

ปัจจุบันเราสามารถลดความเสี่ยงการเกิดปอดติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้น เพียงเข้ารับวัคซีนชนิดต่าง ๆ เพื่อเสริมเกราะป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้ ดังนี้

  1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวัคซีนทางเลือกเสริมที่แนะนำให้ฉีดเป็นประจำทุกปี เพราะสามารถช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ ลดความรุนแรงของโรคที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงวัย และผู้ที่ติดเชื้อง่าย มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจและภูมิคุ้มกันบกพร่อง สนใจสามารถอ่านรายละเอียด วัคซีนไข้หวัดใหญ่เพิ่มเติมได้ที่นี่
  2. วัคซีนปอดอักเสบของเด็กและผู้สูงวัย (IPD) สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่สามารถเกิดอันตรายต่อชีวิตจากโรคปอดติดเชื้ออย่างเด็กเล็กและผู้สูงวัย สามารถลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคปอดอักเสบติดเชื้อได้ ด้วยการเข้ารับวัคซีคปอดอักเสบ สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมโปรโมชันราคาพิเศษได้ที่นี่ วัคซีนปอดอักเสบ (IPD) สำหรับผู้ใหญ่ 13 ชนิด 1 เข็ม, วัคซีนปอดอักเสบ (IPD) สำหรับผู้ใหญ่ 23 ชนิด 1 เข็ม และวัคซีนปอดอักเสบ (IPD) สำหรับเด็ก 13 ชนิด 3 เข็ม

ดังนั้นหากสังเกตอาการตนเองเบื้องต้นแล้วมีเกณฑ์เข้าข่ายอาการปอดติดเชื้อ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง อย่าพึ่งนึกว่าเป็นเพียงไข้หวัดธรรมดาแล้วซื้อยามารับประทานเอง ซึ่งในปัจจุบันมีวัคซีนที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงการเกิดปอดติดเชื้อได้ง่ายมากขึ้นจึงแนะนำให้กลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงเข้ารับการฉีดวัคซีน

สามารถรับชมคลิปวิดีโอการให้ความรู้เกี่ยวกับอาการปอดติดเชื้อ ได้ทางยูทูบ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : โรงพยาบาลวิมุต , โรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลเมดพาร์ค

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button