ข่าว

สยอง เด็ก 14 ถูกลูกดอกยิงปลาปักแสกหน้า เจ็บหนัก เจาะกะโหลกลึกถึงสมอง

สยอง เด็ก 14 ถูกลูกดอกยิงปลาปักแสกหน้า เจาะกะโหลกลึกถึงสมอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส คาดได้รับบาดเจ็บขณะกำลังไปหาปลา แพทย์เฝ้าดูอาการใกล้ชิด

ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ขอให้นำอุปกรณ์เครื่องตัดพลาสม่า (ตัดด้วยระบบลม) มาช่วยเด็กชายที่ถูกลูกดอกยิงเจาะกลางแสกหน้า ภายหลังจากที่โรงพยาบาลจักราช อ.จักราช จ.นครราชสีมา ได้ส่งต่อชายดังกล่าวมาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เนื่องจากถูกลูกดอกปักกลางแสกหน้าเข้าไปเจาะกะโหลกลึกถึงสมอง แพทย์ไม่สามารถทำการผ่าตัดออกมาได้ หากทิ้งไว้นานอาจจะทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตได้

นายชัยสิทธิ์ ภูผารัตน์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ได้นำเครื่องตัดพลาสม่า มาช่วยเหลือ ด.ช.ชยธร (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี ชาว อ.จักราช จ.นครราชสีมา ถูกลูกดอกที่ใช้สำหรับยิงปลา ยาวประมาณ 1 ฟุต เจาะกลางแสกหน้า ระหว่างคิ้วทั้ง 2 ข้าง โดยผู้ได้รับบาดเจ็บนอนหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตัดพลาสม่า ตัดลูกดอกส่วนที่ยื่นออกมาทิ้ง และส่งต่อผู้ป่วยให้แพทย์นำเข้าเครื่องทีซีสแกน พิจารณาในการผ่าตัดนำลูกดอกออกมาต่อไป

นายชัยสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดขึ้นบริเวณใด เนื่องจากทางโรงพยาบาลจักราช ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบแต่เพียงว่าเกิดในพื้นที่ อ.จักราช และถูกนำตัวส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งลูกดอกที่ปักกลางแสกหน้าของเด็กชายคนดังกล่าว เป็นลูกดอกที่ชาวบ้านมักใช้สำหรับยิงปลา คาดว่าน่าจะเกิดจากขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บไปหาปลา และเกิดพลาดถูกปืนลูกดอกที่ใช้ยิงปลายิงเข้าแสกหน้า

ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็นลูกดอกที่มาจากเพื่อนหรือตัวผู้ได้รับบาดเจ็บเอง ส่วนอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น หลังแพทย์ได้นำเข้าเครื่องทีซีสแกน ขณะนี้เริ่มรู้สึกตัวแล้ว โดยแพทย์อยู่ระหว่างประเมินอาการเพื่อที่จะทำการผ่าตัดนำส่วนเหล็กของลูกดอกที่ปักเข้าไปในกะโหลกออกมา เพื่อช่วยเหลือชีวิตต่อไป

 

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button