‘เต้ มงคลกิตติ์’ หิ้วส้มตำไก่ย่าง บุกเยี่ยม ‘ทักษิณ’ ถึงโรงพยาบาล แต่ถูกปฏิเสธ
เต้ มงคลกิตติ์ เป็นตัวแทน ปารีณา – สิระ หิ้วส้มตำไก่ย่าง บุกเยี่ยม ทักษิณ ชินวัตร ถึงโรงพยาบาล แต่ถูกปฏิเสธ ลั่นประชาชนอยากรู้ว่าอาการเป็นไงบ้าง
นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส.พรรคไทยศรีวิไลย์ นำส้มตำไก่ย่างจากร้านครัวเรือนไทย ของนายสิระ เดินทางมาที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อขอเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาดในคดีทุจริตที่เกิดขึ้นในช่วงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ไม่อนุญาตให้ เต้ มงคลกิตติ์ เข้าเยี่ยมหรือนำอาหารไปฝากนายทักษิณได้ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในรายชื่ออนุญาตให้เข้าเยี่ยมและขัดต่อระเบียบ-ขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ รวมท้้งจะกระทบกับเรื่องสิทธิส่วนบุคคล เนื่องจากเป็นพื้นที่โรงพยาบาล
นาย มงคลกิตติ์ ระบุว่าตอนแรก น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ และ นายสิระ เจนจาคะ อดีตสส.พรรคพลังประชารัฐจะเดินทางมาด้วย แต่ น.ส.ปารีณา ป่วยมีไข้เล็กน้อย ส่วนนายสิระติดธุระ เพราะเพิ่งเปิดร้านส้มตำ
เต้ มงคลกิตติ์ เชื่อว่าสามารถนำอาหารมาเยี่ยมได้เหมือนผู้ต้องขังทั่วไป ตามระเบียบของทางกรมราชทัณฑ์ ส่วนทางนางสาวปารีณา ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าพรรคไทยรักไทย ก็ฝากความระลึกถึงมา และสอบถามเรื่องสุขภาพ เนื่องจากทางโรงพยาบาลไม่ได้มีการชี้แจงใดๆ
พร้อมเชื่อว่า ประชาชนก็ต้องการทราบคืบหน้าว่านายทักษิณมีอาการเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับนายทักษิณจะให้เข้าพบด้วยหรือไม่ ไม่ใช่เฉพาะแพทย์ใหญ่ของโรงพยาบาลตำรวจอนุญาตเท่านั้น
ดังนั้นการมาเยี่ยมครั้งนี้จึงขอเป็นตัวแทนหมู่บ้านก่อน เพราะมีทั้งคนที่เป็นห่วงนายทักษิณและคนที่สงสัยในกระบวนการยุติธรรมของไทยว่ามีความเท่าเทียมกันหรือไม่
นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า แม้จะไม่ได้เข้าเยี่ยม และนำอาหารให้กับนายทักษิณได้ แต่หลังจากนี้จะไปทำเรื่องที่กรมราชทัณฑ์ เพื่อเสนอขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณตามระเบียบขั้นตอน โดยอีก 1-2 วันนี้ก็จะเข้าไปที่จะเข้าไปติดต่อที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯอีกครั้ง ทั้งนี้ต้องให้นายทักษิณและครอบครัวอนุญาตด้วย
โดยเชื่อว่า มีหลายคนอยากมาเยี่ยมนายทักษิณ ทั้งรัฐมนตรีและสส. ขณะที่ประชาชนบางส่วนก็อาจจะไม่ชอบก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการเห็นระบบยุติธรรมที่เท่าเทียมกันไม่เลือกปฏิบัติ
โดยเชื่อว่า ถ้าไม่เลือกปฏิบัติ จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินของพรรคเพื่อไทยจะราบรื่น แต่ถ้าเลือกปฏิบัติก็จะทำให้ศรัทธาของประชาชนลดน้อยลง บวกกับการบริหารราชการแผ่นดินของนายเศรษฐา ที่ยังเป็นมือสมัครเล่น ไม่ชำนาญด้านเศรษฐกิจ