เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรียืนยัน วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 พร้อมตอบชัดทุกข้อสงสัย โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เผยอาจใช้แอปพลิเคชันเป๋าตังค์มาร่วมด้วย
หลังจากเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ที่ไม่แน่นอนจนประชาชนงุนงง ล่าสุดวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนขณะนั่งรถไฟขบวนพิเศษตรวจราชการ โดยยืนยันว่า โครงการเงินดิจิทัล (Digital Wallet) 10,000 บาท จะมีการแจ้งรายละเอียดอย่างชัดเจนในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566
นายกฯ ยืนยัน 10 พ.ย. 66 ประกาศรายละเอียดชัดเจน
นายเศรษฐายืนยันความชัดเจน เกี่ยวกับนโยบายเงินดิจิทัล Wallet 10,000 บาทว่า วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ จะรู้เรื่องหมดทุกอย่าง ทั้งที่มาที่ไปและรายละเอียด รวมถึงไทม์ไลน์ที่ชัดเจน พร้อมยอมรับว่า เรื่องเงินดิจิทัลอาจจะมีความเห็นต่างบ้าง แต่ก็จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนจะแจกเท่าไร ต้องมีการพูดคุยกัน พร้อมรับฟังทุกความเห็น เพราะนโยบายนี้เป็นจุดเดิมพันของรัฐบาลที่ได้เคยหาเสียงไว้
เรื่องเศรษฐกิจมีหลายนโยบายที่สำคัญ เช่น โพลสำรวจของสื่อมวลชน ที่สะท้อนถึงเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ด้วยเหตุนี้ เงินดิจิทัลจึงเป็นเรื่องสำคัญ รองลงมาคือ เรื่องหนี้สินครัวเรือน โดยเมื่อวานได้เชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องหารือ โดยทุกเรื่องเป็นเรื่องที่ต้องเดิมพันทั้งหมด รวมถึงเรื่อง 30 บาทรักษาทุกโรค การบริหารจัดการน้ำ ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมอีอีซี
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า จะทำเงินดิจิทัลอย่างจริงจังแน่นอน ขณะนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกำลังดำเนินการอยู่ พร้อมกับประสานกับทุกฝ่าย แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมการ ด้านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยบอกว่า ไม่ได้ติดอะไรเพียงแต่เตือนให้ระวังไว้ในเรื่องนี้ พร้อมกับแนะนำให้รัฐบาลมองผลกระทบระยะยาวว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในเชิงบวกอย่างไร
ด้านสื่อมวลชนและผู้ใหญ่หลายคนที่เตือนเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็พร้อมรับฟังทุกฝ่าย เวลาแถลงก็จะแถลงได้ครบทั้งหมด มีคำถามอะไรก็จะได้ตอบได้ พร้อมย้ำว่า เห็นใจรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่ทำงานหนักมาก ที่ต้องประสานกับทุกภาคส่วน ทั้งเรื่อง กกต. และเรื่องทำนโยบาย
นายเศรษฐายังระบุด้วยว่า ไม่คิดจะถอยหรือล้มเลิกโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท และจะทำต่อไปอย่างที่สุด รวมถึงทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีที่ให้สังคมต้องสงสัย
เงินดิจิทัลอาจจ่ายผ่านแอปฯ เป๋าตัง ยืนยันไม่ใช้เงินสด
นายเศรษฐาระบุว่า อาจจะใช้แอปพลิเคชันเป๋าตังค์มาร่วมด้วย โดยหวังให้ประชาชนใช้นโยบายนี้ได้อย่างสบายใจ แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้เป็นเงินสด เพราะหากเบิกไปใช้ในเมืองใหญ่ที่เศรษฐกิจดีอยู่แล้ว จะทำให้ไม่เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้เมืองเล็กได้เติบโต
อย่างไรก็ตาม ยังคงเน้นย้ำว่า หน้าที่รัฐบาลคือพร้อมรับฟังทุกภาคส่วนก่อนจะตัดสินว่าอย่างใดเกิดประโยชน์ที่สุด ไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่ทำหรือไม่รับฟัง แต่ก็ยอมรับว่าที่พูดคุยระหว่างผู้ใหญ่ อาจจะไม่ได้เห็นตรงกันทุกเรื่อง เนื่องจากไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า GDP ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาโตเฉลี่ยแค่ร้อยละ 1.8
พร้อมกันนี้ ได้ยืนยันเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริตในการบริหารราชการแผ่นดิน และไม่ต้องการให้สังคมมีข้อกังขา พร้อมเน้นย้ำว่าจะทำให้ดีที่สุด หลายเรื่องต้องพยายามทำไป เข้ามาทำงานตรงนี้ไม่มีสิทธิ์เหนื่อย เพราะอาสาเข้ามาทำ และเป็นหน้าที่ของตนที่ต้องตอบคำถามกับสื่อมวลชน