สาวแว่นสลัดลุคเนิร์ด แปลงโฉมแซ่บสะบัด ชาวเน็ตขยี้ตารัว ๆ ถามสนั่นใช่คนเดียวกันไหม ?
สาวเวียดนามจากหนอนหนังสือ แปลงโฉมเป็นสาวเฉี่ยว สวยแซ่บสะบัด หลังผ่าน 9 ปี โซเชียลแดนเหงียนเห็นแล้วทึ่งจนเป้นไวรัลไฟลามทุ่งไม่หยุด
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2557 เจิ่น ถิ ถุย เหวียน นักเรียนหญิงจากกว๋างนิญ จังหวัดริมชายฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ได้เข้าแข่งขันวัดความรู้ในรายการ โรดทูเมาต์โอลิมเปีย (Road to Mount Olympia) ของเวียดนาม โดยตอนนั้นในวัย 18 ปี เธอคือเด็กน้อยมากวความสามารถที่สามารถคว้าอันดับ 1 จากการแข่งขันรายการดังกล่าวไปครองได้อย่างเต็มภาคภูมิ
อย่างไรก็ตาม ใครที่ได้เห็นภาพของเธอในวันนั้นที่เป็นยังสวมชุดนักเรียนมัธยมปลาย โดยมีแว่นหนาเตอะตามแบบฉบับของหนอนหนังสือคนหนึ่ง ก็มีอันต้องตกตะลึงพรึ่งพรืดไม่น้อย หากได้เห็นแม่สาวจากประเทศเพื่อนบ้านแบบตัวเป็น ๆ ในนาทีนี้
ปัจจุบัน เจิ่น ถิ ถุย เหวียน บนวัย 27 ปี ธอกลายมาเป็นสาวสวยมั่น ผู้มีบุคลิกโดดเด่น เมื่อรวมกับความรู้ความสามารถที่ผ่านมา จึงไม่แปลกใจที่จะได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากโลกออนไลน์
ถุยเหวียน ยอมรับสมัยเป็นนักเรียนเธอทุ่มเทให้กับการศึกษาอย่างหนัก นอนแค่วันละ 3 ชั่วโมง เวลาที่เหลือก็มักหมดไปกับการอ่านหนังสือ ทบทวนข้อสอบ รวมถึงเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันรายการดังกล่าว ทำให้ช่วงนั้นเธอไมไ่ด้สนใจเรื่องรูปลักษณ์มากนัก
จากนั้นเมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปลาย เธอได้เข้าเรียนต่อที่ Foreign Trade University และแน่นอน แม่สาวสายเนิร์ดก็จบการศึกษาด้วยเกรดดีเยี่ยม กระั่งได้เข้าทำงานในบริษัทชั้นนำ
ด้วยประสบการณ์ชีวิตและการค่อย ๆ เติบโตจากเด็กนักเรียน นักศึกษา จนล่วงเข้าสุ่วัยทำงานเต็มตัว เธอก็เริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของรูปโฉมภายนอก และด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้หันมาเอาจริงเอาจรังกับการดูแลตัวเองมากขึ้น ทั้งการเข้ารับการจัดฟันกับทันแพทย์
เวลาว่างที่ที่เอาแต่อ่านหนังสือก็เปลี่ยนมาเป็นเข้ายิมเล่นฟิตเนส รวมถึงรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อเพิ่มความเฟิร์มจนมีสัดส่วนที่กระชับในทุกอณู
“ฉันเข้าใจดีว่ารูปลักษณ์ไม่ใช่ตัวแทนคุณค่าทั้งหมด แต่ละคนมีความสวยงามความงานตามแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งฉันก็คิดว่าการที่จะมีความสุขได้ก็ควรโฟกัสไปที่การรักตัวเอง มั่นใจในตัวเอง ไม่ใช่การนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร” ถุย เหวียน ที่ปัจจุบันสลัดลุคเปิดโหมดสาบสวยฌฉี่ยวเต็มตัว กล่าว
ทั้งนี้ ถุยเหวียน ได้กล่าวในบทสัมภาษณ์กับสื่อในบ้านเกิของเธอเองว่า แม้ปัจจุบันตัวเธอเองจะไม่ใช่สาวเนิร์ด หรือ หนอนหนังสืออย่างที่ใครเคยมองอีต่อไปแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรเจ้าตัวก็ยังคงมองว่าสิ่งที่คนให้ความสนใจและความสำคัญมากสุดก็ยังคงเป็นความรู้ความสามารถ ตลอดจนประวัติการศึกษาและความสำเร็จอยู่ดี
ซึ่งเธอในตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในระดับที่พอใจ เคยได้รับตำแหน่งผู้จัดการสาขาที่บริษัทแห่งหนึ่ง และได้เป็นที่ปรึกษาและตัวแทนของเวียดนามในโปรเจกต์สตาร์ทอัปที่สิงคโปร์ นอกจากนี้ยังได้รับเชิญให้เป็นผู้บรรยายในมหาวิทยาลัย เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ในโลกฑุรกิจที่ผ่านมาอีกด้วย.