คลังฯ เสนอ 3 แนวทางนิยาม ‘คนรวย’ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท อาจล่าช้า
กระทรวงการคลัง เสนอ 3 แนวทางนิยาม คนรวย แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เผยโครงการอาจล่าช้าไปถึงช่วง เม.ย. – พ.ค. 67
นาย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกำหนดประชุมเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม แต่เลื่อนออกไปนั้น
นายจุลพันธ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือกันในหลายประเด็นซึ่งมีเรื่องที่ได้ข้อสรุป และยังไม่ได้ข้อสรุป โดยเฉพาะเรื่องกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการที่อาจจะมีการตัดกลุ่มคนรวยออก เบื้องต้นมีการเสนอคำจำกัดความ คนรวย ไว้ 3 แนวทางดังนี้
1.ตัดกลุ่มที่มีรายได้เกิน 25,000 บาทต่อเดือน และหรือมีเงินฝากบัญชี เกิน 100,000 บาท จะเหลือคนที่เข้าร่วมโครงการ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณ 430,000 ล้านบาท
2.ตัดกลุ่มรายได้เกิน 50,000 บาทต่อเดือน และหรือมีเงินฝากบัญชี เกิน 500,000 บาทจะเหลือคนที่เข้าร่วมโครงการ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณ 490,000 ล้านบาท
3.ให้เฉพาะกลุ่มยากไร้ 15-16 ล้านคน ใช้งบประมาณ 160,000 ล้านบาท
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ส่วนรัศมีในการใช้จ่าย คณะอนุกรรมการได้มีข้อสรุปว่าจะใช้จ่ายในรัศมีระดับอำเภอ ซึ่งมีพื้นที่ ไม่ใหญ่ไป และมีร้านค้าใช้จ่าย ส่วนเงื่อนไขในการขึ้นเงินจะต้องเป็นร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี 3 ประเภท ได้แก่ภาษี VAT , ภาษีนิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ส่วนแหล่งที่มางบประมาณ ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะมีหลายทางเลือก แต่โจทย์ของการคิดนโยบายจะใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นหลัก ผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณฯ ทั้งนี้มีข้อเสนอว่า อาจใช้การตั้งงบประมาณผูกพัน 4 ปี เบิกจ่ายปีละ 100,000 ล้านบาท ซึ่งอาจทำให้การขึ้นเงินของร้านค้าต้องชะลอออกไป
“เมื่อใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นหลัก ต้องรองบประมาณปี 2567 ซึ่งขณะนี้มีความล่าช้าอยู่แล้ว อาจทำให้โครงการล่าช้าออกไปจากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มได้ใน 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นช่วงเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม 2567 แต่จะพยายามเร่งให้เร็วที่สุด” นายจุลพันธ์กล่าว