ข่าวข่าวการเมือง

สมาชิกก้าวไกลซ้อมภรรยา จ.สกลนคร ลาออกแล้ว ร่วมจุดยืนต่อต้านความรุนแรง

สมาชิกก้าวไกลซ้อมภรรยา จ.สกลนคร ลาออกแล้ว หลังถูกแฉว่าทำร้ายร่างกายภรรยา จนหูฉีกเย็ก 10 เข็ม พรรคย้ำต่อต้านความรุนแรง

น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ชี้แจงหลังมีกระแสข่าวว่าสมาชิกพรรคก้าวไกลทำร้ายร่างกายภรรยาที่จังหวัดสกลนครนั้น ล่าสุดสมาชิกคนดังกล่าวลาออกไปแล้ว โดยระบุว่า แจ้งความคืบหน้ากรณีสมาชิกพรรคที่ถูกกล่าวหาเรื่องการทำร้ายร่างกายภรรยาที่สกลนคร ล่าสุดบุคคลดังกล่าวแจ้งว่าจะลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค

Advertisements

แม้การลาออกดังกล่าวทำให้กระบวนการวินัยของพรรคในกรณีนี้สิ้นสุดลง แต่เรายินดีให้ความร่วมมือกับผู้ร้องเรียน หากมีข้อมูลหรือประเด็นใดที่ต้องการจากพรรค

เราเชื่อว่าทุกคนที่ตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพราะอยากเห็นสังคมก้าวหน้าขึ้นในแบบที่พรรคก้าวไกลนำเสนอ

ดังนั้น เราหวังและขอเชิญชวน ให้สมาชิกทั้ง 70,000+ คน ณ ปัจจุบัน และที่จะเข้ามาใหม่ในอนาคต ร่วมกันยืนยันจุดยืนและรณรงค์ ต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ สร้างสังคมที่ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางเพศ ไปด้วยกัน

ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายเล่าว่า เธอเป็นนักธุรกิจค้าอาหารสัตว์ในภาคอีสานและปัจจุบันขยับขยายมาทำปาล์มด้วย ได้รู้จักกับทีมงานพรรคก้าวไกลรายนี้มาตั้งแต่ปี 2552 และแต่งงานอยู่กินด้วยกันในปี 2557 เคยถูกสามีทำร้ายครั้งรุนแรงมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกย้อนไปเมื่อ 6-7 ปีก่อน เมื่อเธอแสดงอาการหึงหวงที่สามีไปยุ่งกับเด็กเอนท์ในงานปาร๋ตี้กลุ่มออฟโรด และเกิดทะเลาะวิวาทกันระหว่างขับรถกลับบ้าน เธอทั้งโดนตบและต่อยจนหูฉีกเย็บเกือบ 10 เข็ม ยังมีแผลเป็นอยู่จนทุกวันนี้ แต่ครั้งนั้นก็ให้อภัยเพื่อรักษาครอบครัว และรักษาธุรกิจเอาไว้

จุดแตกหัก มาเกิดเอาตอนเดือนสิงหาคมปีนี้ ที่สามีเธอหายไปจากบ้าน 2 สัปดาห์ โดยติดต่อไม่ได้เลย เมื่อกลับมาก็ติดกล้องวงจรปิดไว้ทั่วบ้าน แล้วหายออกไปอีก 2 สัปดาห์ แล้วกลับมาเมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา เมื่อเข้าไปถามดีๆ ก็โอนด่ากลับ บอกเบื่อ รำคาญ ไม่อยากเห็นหน้า อะไรไม่ดีเอามาประโคมใส่หมด ซ้ำยังไล่ให้ไปตายกับบุพพากรี เพราะรู้ว่าเธอกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก ก็เอาปมตรงนี้มาด่า เธอเลยโมโหสุดขีด เอาตุ๊กตาที่อยู่โรงรถออกมาทุบกระจกรถมัสแตงป้ายแดง ทั้งด้านหน้าด้านหลัง สามีก็ปรี่เข้ามาชกต่อยทำร้ายร่างกาย คิ้วแตกเลือดอาบเป็นทางยาวลงมาที่แก้ม ตาเขียวช้ำ จึงตัดสินใจไปแจ้งความ ข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ฝ่ายชายก็แจ้งความกลับข้อหาทำลายทรัพย์สิน คือ รถมัสแตง ทั้งที่รถคันนี้เป็นสินสมรสและยังมีประกันชั้น 1 รวมทั้งแจ้งข้อหาลักทรัพย์ที่เธอไปเปิดตู้เซฟที่เป็นสินสมรส เอาของบางส่วนไปขาย เพราะสามีไม่ให้เงินเลย รวมทั้งแจ้งข้อหามีชู้ด้วย ทำให้ทนไม่ไหวจึงเตรียมฟ้องหย่า เพราะไม่อยากโดนทำร้ายเป็นครั้งที่ 3

Advertisements

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button