นักเที่ยวตบหน้าการ์ด ถามรู้ไหมเป็นใคร ลั่นเป็นสารวัตร ตรวจแล้วเป็นตำรวจจริง
นักเที่ยวตบหน้าการ์ด หลังถอดเสื้อเต้นในร้านและถูกเชิญออก ถามรู้ไหมเป็นใคร ลั่นเป็นสารวัตร ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นตำรวจริง
จากกรณีที่มีคลิปที่ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ โดยเป็นคลิปของสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจังหวัดลำพูน ซึ่งถูกบันทึกจากกล้องวงจรปิด จากคลิปจะเห็นได้ว่าชายหัวเกรียนถูกนำตัวออกมาจากผับ ก่อนที่ชายผู้ก่อเหตุ ใช้มือบีบไปที่ใบหน้าของผู้เสียหาย ก่อนที่จะใช้มือคล้ายกับตบไปที่ใบหน้าของผู้เสียหายไปสองครั้ง โดยมีชายคนที่สวมหมวกสีขาวที่มากับกลุ่มชายดังกล่าวคอยจับผู้เสียหายไว้ ก่อนที่คนในกลุ่มที่มาด้วยกันจะเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.นิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน แล้วกว่าสิบวันแต่เรื่องยังเงียบ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากกลุ่มบุคคลดังกล่าว อ้างว่าเป็นถึงระดับสารวัตร
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางพบกับนายต้นไผ่ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหายซึ่งวันนี้ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุตสาหกรรม เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมและเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย เนื่องจากผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุสามารถไกล่เกลี่ยกันได้ พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองรับงานเป็นการ์ดของสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในเขตตำบลบ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน ซึ่งเหตุการณ์ตามในคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงร้านปิดแล้วประมาณตีหนึ่งกว่าๆ ของวันที่ 2 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา
นายต้นไผ่เล่าว่า ตอนนั้นพนักงานของร้านมาบอกว่ามีคนถอดเสื้อเต้นในร้าน ตนเองจึงไปเชิญเขาออกจากร้าน ทำให้กลุ่มคนที่มาด้วยกันไม่พอใจและเข้ามากระชากคอเสื้อ แถมยังถามตนเองว่า “มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร” ตนเองจึงตอบกลับไปว่า “ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่จะถอดเสื้อเต้นในร้านแบบนี้ไม่ได้” ทำให้กลุ่มคนที่มาด้วยกันไม่พอใจ และพยายามจะกระชากคอเสื้อ ตนเองจึงบอกเขาว่า มีอะไรให้ไปเคลียร์กันข้างนอก และเขาก็กอดคอเดินออกมาข้างนอกร้าน ก่อนที่ตนจะถูกกระชากคอเสื้อ และถูกตบสองทีตามในภาพจากกล้องวงจรปิด
ทั้งนี้กลุ่มชายที่ก่อเหตุเขาอ้างตัวเป็นตำรวจระดับสารวัตร ซึ่งขณะเกิดเหตุตนเองก็พูดจากับเขาดีๆ และสุภาพที่สุด แม้ตอนที่ถูกตบ ตนยังยกมือไหว้เขาอยู่ ถ้าเป็นการ์ดคนอื่นๆ คงมีเรื่องหนักกว่านี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองได้ไปแจ้งความเมื่อเช้าวันที่ 2 ต.ค. 66 เนื่องจากกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะเขาอ้างเป็นตำรวจ เขามีปืน ตนเองไม่มีปืน และก็ยังเป็นชาวบ้านธรรมดา หาเช้ากินค่ำทั่วไป โดยหลังจากที่แจ้งความไปแล้วก็ไม่มีความคืบหน้าจนกระทั่งเป็นข่าว วันนี้เจ้าหน้าที่เรียกตนเองมาพบพนักงานสอบสวนเบื้องต้นกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากันอยู่ และคนก่อเหตุก็ได้ขอโทษตนเอง ตนเองก็ไม่ว่าอะไร ส่วนการเยียวยานั้นก็อยู่ระหว่างการตกลงกันอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากผู้เสียหายและผู้ก่อเหตุตกลงกันได้ก็คงไม่ได้เป็นคดีความและเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ส่วนจะมีโทษทางด้านวินัยหรือไม่นั้น คงต้องอยู่ที่กระบวนการและผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ชายคนดังกล่าวเป็นตำรวจจริง สังกัดตำรวจภูธรภาค 5
วิจารณ์สนั่น! ครูตบหน้าเด็ก จนแมสก์หลุด เหตุไม่ยอมเรียกว่าแม่ เด็กบอกมีแม่คนเดียว